เที่ยวตูนิเซีย เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทาง ประเทศตูนิเซียเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่น่าสนใจ ไปจนถึงธรรมชาติที่งดงาม ทั้งทะเลทรายสะฮาราและชายหาดที่สวยงาม
วันนี้ GoTogetherTravel จะพาทุกคนไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในเมืองคาร์เธจ ตูนิเซีย ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่เคยรุ่งเรืองในอดีตและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญหลายแห่งที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและอารยธรรมที่หลากหลาย คุณจะได้สัมผัสกับความงามและความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ รวมถึงกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นรอบ ๆ เพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำไม่รู้ลืม
สนใจเลือกเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว
Line: @GoTogetherTravel โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726
คาร์เธจ (Carthage) การเดินทางสู่เมืองโบราณที่หลงเหลือประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่า
เมื่อพูดถึงตูนิเซีย หนึ่งในสถานที่ที่ต้องไปเยือนคือเมืองโบราณคาร์เธจ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าหลงใหลและความงามที่ยากจะลืมเลือน การเดินทางไปคาร์เธจเริ่มต้นจากการนั่งรถจากกรุงตูนิเซีย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ทันทีที่ถึงที่หมาย คุณจะรู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกในอดีต
ซากปรักหักพังที่นี่ถูกฟื้นฟูอย่างสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองในอดีต ที่เคยเป็นหนึ่งในเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คาร์เธจเป็นที่ตั้งของอาณาจักรฟินิเชียนที่รุ่งเรือง สถานที่นี้เต็มไปด้วยความลึกลับและเสน่ห์ เมื่อเดินสำรวจซากปรักหักพัง คุณจะได้เห็นวิหารของท่านมอริส (Tophet) ที่ใช้สำหรับทำพิธีกรรม บ่อน้ำโบราณที่สะท้อนแสงแดดอย่างงดงาม และกำแพงเมืองที่ยืนหยัดมายาวนาน
ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งความแข็งแกร่งและความภาคภูมิใจ สิ่งที่ทำให้คาร์เธจน่าสนใจคือการมองเห็นความเป็นไปในอดีตที่ผสมผสานกับบรรยากาศปัจจุบัน เมื่อผมเดินเข้าไปในบริเวณซากปรักหักพัง ผมรู้สึกเหมือนถูกพาไปยังยุคโบราณ รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองที่เคยรุ่งเรือง
ผ่านไปสักพัก ผมได้พบกับนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศที่ร่วมแชร์ประสบการณ์กัน การได้ยินเสียงหัวเราะและการแลกเปลี่ยนเรื่องราวทำให้บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หากมีโอกาส อย่าลืมเดินไปยังจุดชมวิวที่สูงขึ้นเพื่อสัมผัสวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่งดงาม น้ำทะเลสีฟ้าครามตัดกับซากปรักหักพังสีขาว
ให้ความรู้สึกสงบและร่มรื่นอย่างบอกไม่ถูก มันคือภาพที่คุณจะไม่สามารถลืมได้ และเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณอยากกลับมาอีกครั้ง หลังจากการเดินเที่ยวอย่างสนุกสนาน การได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ไม่ไกลจากซากปรักหักพัง มีร้านอาหารเล็กๆ ที่ให้บริการอาหารพื้นเมืองที่อร่อย อย่างเช่น “คัสคูส” และ “บริก”
ซึ่งทำให้คุณสัมผัสถึงวัฒนธรรมและรสชาติที่แท้จริงของตูนิเซีย เมืองโบราณคาร์เธจไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลจากการเดินทางของคุณเอง ทุกคนที่มาที่นี่จะได้ค้นพบความงามและเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้
ดักก้า (Dougga) เมืองโบราณที่เผยความรุ่งเรืองของอาณาจักรพูนิกและโรมัน
เมืองดักก้าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในตูนิเซีย และยังเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโรมัน เมื่อคุณเดินทางมาที่นี่ คุณจะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของเมืองโบราณที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายและวัฒนธรรมในสมัยโรมัน ซึ่งความงามและความสำคัญทางประวัติศาสตร์นี้ทำให้ดักก้าเป็นสถานที่ที่ต้องไม่พลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยและเรียนรู้เกี่ยวกับอดีต
การเดินทางไปดักก้าเริ่มต้นจากกรุงตูนิเซีย ใช้เวลาไม่นานในการขับรถผ่านภูมิประเทศที่งดงามและวิวทิวทัศน์ที่หลากหลาย เมื่อถึงที่หมาย คุณจะพบกับซากปรักหักพังที่มีเสน่ห์ ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพดีและสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต ซากอาคารที่สร้างจากหินอ่อนขาวที่สวยงาม ยังคงรักษาเอกลักษณ์แห่งอารยธรรมโรมันไว้อย่างครบถ้วน
เมื่อคุณเดินเข้าไปในเมือง คุณจะพบกับวิหารอัศวิน (Temple of Jupiter) ที่มีเสาหินสูงตระหง่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่น่าหลงใหลที่สุดในดักก้า ที่นี่คุณสามารถเดินสำรวจซากอาคารต่างๆ และสัมผัสบรรยากาศที่ยังคงเก็บรักษาไว้จากยุคโบราณ การเห็นเสาหินที่สวยงามและรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ทำให้คุณรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความภาคภูมิใจของผู้คนในอดีต
ในระหว่างการสำรวจ คุณจะได้เห็นอัฒจันทร์ที่สามารถนั่งและมองออกไปยังวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาและธรรมชาติรอบข้าง เมื่อคุณนั่งอยู่ที่นี่ คุณจะรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับอดีตและแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ เหมือนได้ย้อนกลับไปในเวลาที่ผู้คนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อชมการแสดงและกิจกรรมต่างๆ เมืองดักก้าไม่เพียงแต่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์โรมันอีกด้วย
คุณสามารถพบเห็นซากอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วิหารที่เคยใช้สำหรับการบูชาเทพเจ้า ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจว่าวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยโรมันเป็นอย่างไร เมืองดักก้าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่รักประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน พร้อมกับการสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจในดินแดนแห่งนี้ ที่นี่คือสถานที่ที่คุณสามารถใช้เวลาหยุดนิ่งและใคร่ครวญถึงเรื่องราวของอดีตในบรรยากาศที่เงียบสงบ
ซูสส์ (Sousse) สำรวจเมืองประวัติศาสตร์แห่งตูนิเซียที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและชายหาดที่งดงาม
ซูสส์เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน วัฒนธรรมที่หลากหลาย หรือความงามของชายหาดที่งดงาม เมืองนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มอบประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความตื่นเต้นและความสงบในเวลาเดียวกัน
การเดินทางไปซูสส์นั้นง่ายและสะดวก ไม่ว่าคุณจะเริ่มจากกรุงตูนิเซียหรือเมืองใกล้เคียง การใช้รถบัสหรือแท็กซี่จะใช้เวลาเพียงประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อมาถึง คุณจะพบกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ผสมผสานกับกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่ยังคงอยู่ เมืองเก่าของซูสส์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก มีถนนแคบๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมและของที่ระลึก
การเดินสำรวจในย่านนี้จะทำให้คุณได้เห็นสถาปัตยกรรมอาหรับ-อิสลามที่งดงาม และสัมผัสถึงบรรยากาศที่คุ้นเคยของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซูสส์เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้พบกับตลาด (souks) ที่เต็มไปด้วยเสียงตะโกนของพ่อค้าและกลิ่นหอมของเครื่องเทศ และอาหารท้องถิ่นที่ยั่วยวนใจ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ซูสส์ ที่จัดแสดงสิ่งของโบราณจากยุคโรมันและฟินิเชียน เพื่อให้คุณได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของอารยธรรมนี้
หลังจากการสำรวจเมืองเก่า คุณสามารถผ่อนคลายที่ชายหาดที่สวยงามของซูสส์ ชายหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าคราม เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำหรือนั่งเล่นพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและบาร์ที่ให้บริการอาหารทะเลสดใหม่ ทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติของตูนิเซียอย่างแท้จริง
ซูสส์เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ เมืองนี้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและชายหาดที่สวยงาม เป็นสถานที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความเป็นเอกลักษณ์ของตูนิเซียในแบบที่สมบูรณ์ หากคุณมีโอกาสมาเยือนตูนิเซีย ซูสส์จะเป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด
แมทมาตา (Matmata) สัมผัสความงดงามของบ้านใต้ดินในทิวทัศน์ทะเลทรายตูนิเซีย
แมทมาตา เมืองเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านใต้ดินที่มีสถาปัตยกรรมที่แปลกตาและงดงาม แมทมาตาตั้งอยู่ในภูมิภาคทุ่งทะเลทราย ซึ่งทำให้บรรยากาศที่นี่มีความสงบและเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร การเดินทางมายังแมทมาตาง่ายดาย คุณสามารถใช้รถยนต์จากเมืองใหญ่อย่างตูนิส ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงผ่านเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลทราย เมื่อมาถึง คุณจะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์จากพื้นที่เขียวขจีเป็นทะเลทรายกว้างใหญ่
สิ่งที่ทำให้แมทมาตาน่าสนใจคือบ้านใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวเบอเบอร์ เพื่อหลบหลีกความร้อนจากแสงแดดอันจัดจ้า บ้านเหล่านี้มีการออกแบบอย่างชาญฉลาด โดยสร้างเป็นห้องกลมที่เชื่อมต่อกัน มีการตกแต่งด้วยสีสันสดใส ทำให้คุณได้สัมผัสความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชาวเบอเบอร์ได้อย่างใกล้ชิด อีกหนึ่งเสน่ห์ของแมทมาตาคือความเชื่อมโยงกับภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Star Wars หลายฉากในภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกถ่ายทำที่นี่
โดยเฉพาะฉากที่เกี่ยวข้องกับดาว Tatooine ซึ่งบ้านใต้ดินในแมทมาตามีความคล้ายคลึงกับที่อยู่อาศัยของตัวละครในเรื่อง การได้เยี่ยมชมสถานที่ที่เคยปรากฏในภาพยนตร์จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของ Star Wars เลยทีเดียว เมื่อคุณเดินเข้าไปในบ้านใต้ดิน คุณจะรู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็นสบาย และเสียงของน้ำที่ไหลผ่านซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศภายในมีความผ่อนคลาย
การได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านที่ยินดีต้อนรับคุณ และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตในแมทมาตาจะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น หลังจากที่คุณได้สำรวจบ้านใต้ดินแล้ว คุณสามารถออกไปสำรวจทิวทัศน์ทะเลทรายรอบๆ ได้อีกด้วย ทะเลทรายสะฮาราที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ทำให้คุณรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ และถ้าคุณมีโอกาส คุณอาจจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกดินที่งดงาม รังสรรค์สีสันที่หลากหลายบนท้องฟ้า
แมทมาตาเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ บ้านใต้ดินในทิวทัศน์ทะเลทรายทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความเป็นเอกลักษณ์ของตูนิเซีย และการได้เยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำ Star Wars จะยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการเดินทางของคุณ หากคุณมีโอกาสมาเยือน อย่าลืมเก็บความทรงจำที่น่าประทับใจจากแมทมาตาไว้ในใจ
ทะเลทรายซาฮารา (Sahara Desert) การผจญภัยในมหาสมุทรทรายมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อพูดถึงการเดินทางผจญภัยในธรรมชาติ หนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาดคือทะเลทรายซาฮารา ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามและเสน่ห์ที่ยากจะลืมเลือน การเดินทางมายังทะเลทรายซาฮารานั้นสามารถเริ่มต้นได้จากหลายเมืองในตูนิเซีย เช่น ท่าเรือซูสส์หรือเมืองมาทมาตา คุณสามารถขับรถยนต์หรือจองทัวร์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงในการเดินทาง
เมื่อคุณมาถึง คุณจะถูกดึงดูดด้วยภาพของทุ่งทรายสีทองที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามแสงแดดสร้างความมหัศจรรย์ให้กับภูมิทัศน์ที่คุณเห็น การสำรวจทะเลทรายซาฮาราสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การขี่อูฐตามเส้นทางโบราณ หรือการขับรถยนต์ 4WD ผ่านเนินทราย การขี่อูฐในขณะที่พระอาทิตย์ตกจะสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ
ภาพของแสงสีทองสะท้อนกับทรายทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในภาพยนตร์ เรื่องราวของผู้กล้าหาญที่เดินทางผ่านความยากลำบากในทะเลทราย ระหว่างการเดินทาง คุณจะมีโอกาสได้พบกับชาวเบอเบอร์ ชนเผ่าพื้นเมืองที่มีวัฒนธรรมและประเพณีที่น่าสนใจ การได้พูดคุยกับพวกเขาจะทำให้คุณเข้าใจถึงการใช้ชีวิตในทะเลทรายและวิถีชีวิตที่พึ่งพาธรรมชาติ เช่น การเลี้ยงสัตว์และการปลูกพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
วัฒนธรรมของพวกเขาจะเปิดมุมมองใหม่ให้กับคุณ และทำให้คุณสัมผัสถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ หนึ่งในกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นคือการตั้งแคมป์กลางทะเลทราย คุณสามารถนอนใต้แสงดาวและฟังเสียงธรรมชาติ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างจากชีวิตในเมืองอย่างสิ้นเชิง การนอนหลับในเต็นท์ในคืนที่สงบจะทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
คุณอาจจะตื่นขึ้นมาเพื่อเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ส่องแสงเป็นสีส้มทองบนทุ่งทราย การเริ่มต้นวันใหม่ในบรรยากาศที่งดงามเช่นนี้จะเป็นความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืม สำหรับนักถ่ายภาพ ทะเลทรายซาฮาราคือสถานที่ที่มีความงามอันน่าหลงใหล เส้นสายของเนินทรายและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวจะสร้างภาพที่มีเสน่ห์และตราตรึงใจ ซึ่งคุณสามารถเก็บเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ
นอกจากนี้ แสงและเงาในทะเลทรายสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทั้งวัน ทำให้คุณมีโอกาสถ่ายภาพที่หลากหลายและน่าสนใจ นอกจากการเดินทางและการตั้งแคมป์ คุณยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ในทะเลทรายซาฮาราได้ เช่น การปีนเขาทราย การเล่นสกีทราย หรือการสำรวจภูมิประเทศที่มีลักษณะเฉพาะของทะเลทราย แต่ละกิจกรรมจะทำให้คุณรู้สึกถึงความตื่นเต้นและความมหัศจรรย์ของโลกที่อยู่รอบตัว
เคลิเบีย ( Kélibia ) เมืองชายทะเลที่หลอมรวมประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันงดงาม
เมื่อพูดถึงเมืองชายทะเลในตูนิเซีย เคลิเบีย (Kélibia) คือหนึ่งในสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยความงามของชายหาดที่ทอดยาว สถาปัตยกรรมที่มีเสน่ห์ และประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย เคลิเบียจึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทั้งความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ การเดินทางมายังเคลิเบียนั้นง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากกรุงตูนิเซียหรือเมืองใกล้เคียง
คุณสามารถขับรถหรือใช้บริการรถบัสได้ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อคุณมาถึง คุณจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศชายทะเลที่เงียบสงบและสวยงาม ตั้งอยู่ระหว่างเนินเขาและท้องทะเลสีฟ้าคราม ชายหาดของเคลิเบียเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทรายสีทองละเอียดที่ทอดยาวสะท้อนแสงแดดในช่วงกลางวัน สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การอาบแดดและเล่นน้ำ น้ำทะเลใสจนเห็นถึงพื้นทรายด้านล่าง
ชวนให้คุณกระโจนลงไปเพื่อสัมผัสความเย็นสบายของน้ำทะเลในวันที่ร้อนอบอ้าว ที่นี่มีพื้นที่สำหรับการว่ายน้ำและกิจกรรมทางน้ำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นสกีน้ำหรือพายเรือคายัค คุณสามารถเช่าอุปกรณ์จากร้านค้าใกล้เคียงหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดโดยทัวร์ท้องถิ่น เพื่อสำรวจความงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ บริเวณชายหาดยังมีจุดที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อน
คุณสามารถเลือกที่จะนอนอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ฟังเสียงคลื่นซัดสาดและสูดกลิ่นไอทะเลที่บริสุทธิ์ นี่คือช่วงเวลาที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและได้ฟื้นฟูพลังให้กับตัวเอง ในขณะที่ชายหาดให้คุณเพลิดเพลินกับความงามทางธรรมชาติ เคลิเบียยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจที่รอให้คุณค้นหา โครงสร้างสำคัญที่คุณควรไปเยือนคือป้อมปราการเคลิเบีย (Kélibia Fort) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มันถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 และมีวิวที่น่าทึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เมื่อคุณเดินสำรวจภายในป้อม คุณจะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของอดีตที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ จากจุดชมวิวบนป้อมปราการ คุณจะได้มองเห็นวิวทะเลที่กว้างใหญ่และชายหาดที่ทอดยาว ทำให้คุณสามารถจับภาพความงามของธรรมชาติได้อย่างชัดเจน ตลาดท้องถิ่นในเคลิเบียเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด
ที่นี่คุณจะได้พบกับสินค้าเกษตรที่สดใหม่ ผลไม้พื้นเมือง และอาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย เสียงหัวเราะและการทักทายจากพ่อค้าแม่ขายทำให้คุณรู้สึกถึงชีวิตชีวาของเมืองเล็กๆ แห่งนี้ และคุณอาจจะได้ลองชิมขนมท้องถิ่นที่อร่อย ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับวัฒนธรรมที่นี่
ตูนิส (Tunis) เมืองหลวงที่เป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์และความงามในตูนิเซีย
ตูนิส (Tunis) เมืองหลวงของตูนิเซีย เป็นสถานที่ที่หลอมรวมประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ด้วยความงามของสถาปัตยกรรมแบบอาหรับและยุโรป ตูนิสจึงเป็นเมืองที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดในการเยือนเมื่อมาถึงตูนิเซีย หนึ่งในจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือเมืองเก่าหรือมาดีนา (Medina) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
ที่นี่คุณจะได้เดินสำรวจถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก งานฝีมือ และอาหารพื้นเมือง บรรยากาศในมาดีนานั้นมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยสีสัน สถาปัตยกรรมในเมืองเก่ามีความหลากหลาย ตั้งแต่มัสยิดที่สวยงามไปจนถึงซูค (souks) ที่คุณสามารถพบกับเครื่องเทศ ขนมหวาน และสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น เสียงหัวเราะของผู้คนและกลิ่นหอมของอาหารทำให้บรรยากาศในเมืองเก่ามีเสน่ห์เฉพาะตัว
ตูนิสยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น มัสยิดซิดี โบลคิน (Sidi Bou Said) ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและวิวที่งดงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เบอร์เบอร์ (Bardo Museum) ที่มีการจัดแสดงโบราณวัตถุและงานศิลปะที่มีค่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของตูนิเซียในยุคต่างๆ ตูนิสมีหลากหลายกิจกรรมให้คุณทำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมวิวที่อ่าวตูนิส หรือการพักผ่อนที่ชายหาดใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำ เช่น การพายเรือคายัคหรือดำน้ำตื้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ตูนิส (Tunis) เป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงดงามที่รอให้คุณค้นหา การเดินทางมายังเมืองนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความหลากหลายของตูนิเซีย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม วัฒนธรรมที่น่าสนใจ หรืออาหารที่อร่อย หากคุณมีโอกาสมาเยือนตูนิเซีย อย่าลืมแวะที่ตูนิสเพื่อสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจในเมืองหลวงแห่งนี้
ไคโรวาน (Kairouan) เสน่ห์แห่งเมืองมรดกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางศาสนาและวัฒนธรรม
ไคโรวาน (Kairouan) ตั้งอยู่ในใจกลางของตูนิเซีย เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของอิสลาม เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีตและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ถูกก่อตั้งในศตวรรษที่ 7 และถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการศึกษาศาสนาอิสลามที่สำคัญ
เมืองนี้เป็นสถานที่ที่ชาวมุสลิมมาประกอบพิธีกรรมและเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนา ทั้งยังเป็นบ้านเกิดของหลายๆ อนุสาวรีย์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อคุณเดินทางเข้าสู่ไคโรวาน สิ่งแรกที่จะสะดุดตาคือ มัสยิดอัคบาร์ (Great Mosque of Kairouan) ซึ่งเป็นหนึ่งในมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอิสลาม
สถาปัตยกรรมของมัสยิดนี้ถูกออกแบบอย่างสวยงาม ด้วยการใช้เสาหินอ่อนที่ประณีตและอาคารที่มีความกว้างขวาง ภายในมัสยิดมีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะแก่การทำสมาธิและสวดมนต์ นอกจากนี้ยังมี ซุ้มประตูและกำแพงเมืองเก่า ที่สะท้อนถึงอารยธรรมอาหรับ-อิสลาม ในการเดินสำรวจ คุณจะได้พบกับลวดลายที่สวยงามและการออกแบบที่สร้างสรรค์ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของผู้คนในอดีต
ตลาด (souk) ในไคโรวานเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเดินชมและเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรม เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับแบบดั้งเดิม และผ้าแบบต่างๆ นอกจากนั้นยังมีร้านขายอาหารที่มีเครื่องเทศหอมกรุ่นและอาหารท้องถิ่นที่รอให้คุณได้ลิ้มลอง เมื่อคุณเดินเล่นในตลาด คุณจะได้ยินเสียงพูดคุยของผู้คนและเสียงเรียกขายของจากพ่อค้า เป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง
หนึ่งในประสบการณ์ที่น่าสนใจในไคโรวานคือการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา เช่น การทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์และหลักธรรมของอิสลามผ่านการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ หรือการเข้าร่วมพิธีกรรมในมัสยิด การเดินเที่ยวในเมืองยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับชีวิตประจำวันของชาวเมือง ผ่านการพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนท้องถิ่น
ตาบาร์กา (Tabarka) ผจญภัยใต้ทะเลสวรรค์แห่งการดำน้ำในเมืองชายทะเลที่สวยงาม
ตาบาร์กา (Tabarka) ตั้งอยู่ในภูมิภาคเหนือของตูนิเซีย เป็นเมืองชายทะเลที่มีความงดงามทางธรรมชาติที่หาที่เปรียบไม่ได้ ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่หลอมรวมความสวยงามของชายหาดกับการผจญภัยใต้ทะเล เมืองนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะสวรรค์สำหรับนักดำน้ำและผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ
เมื่อคุณเดินทางมาถึงตาบาร์กา คุณจะถูกดึงดูดด้วยภาพของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ใสสะอาด น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มตัดกับชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด เป็นภาพที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในภาพฝัน ท่ามกลางอากาศที่อบอุ่นและเสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง ความรู้สึกสงบและสดชื่นจะพาคุณหลุดจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน
เดินตามชายหาดที่ทอดยาว คุณจะเห็นผู้คนที่กำลังเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งการว่ายน้ำ การเล่นเซิร์ฟ หรือแม้แต่การนั่งเล่นบนชายหาดใต้ร่มไม้ที่ให้ร่มเงา ชายหาดที่นี่มีความเป็นส่วนตัว ทำให้คุณสามารถผ่อนคลายและสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ตาบาร์กาเป็นที่รู้จักกันดีในด้านการดำน้ำ โดยมีแนวปะการังที่สวยงามและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่หลากหลาย
นักดำน้ำสามารถเข้าร่วมทัวร์ดำน้ำที่มีการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ น้ำทะเลใสสะอาดทำให้คุณสามารถเห็นปะการังและปลาหลากสีสันได้อย่างชัดเจน เมื่อดำน้ำลงไป คุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกอีกใบที่เต็มไปด้วยสีสัน เสียงคลื่นจากผิวน้ำไหลเข้ามาเบาๆ ขณะที่คุณสำรวจสิ่งมหัศจรรย์ใต้ทะเล โดยเฉพาะเมื่อคุณเห็นปลาที่แหวกว่ายอยู่รอบตัวคุณ เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม
นอกจากการดำน้ำแล้ว ตาบาร์กายังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยคุณสามารถเยี่ยมชมป้อมปราการโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยโรมัน ตั้งอยู่บนเนินเขา คุณจะได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ของทะเลและเมืองในมุมสูงที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต ตลาดท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวายังเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด คุณจะพบกับการค้าขายที่คึกคัก เสียงพูดคุยของผู้คนและกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่เตะจมูก สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา
เป็นเมืองที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติ ความสนุกสนานของการดำน้ำ และประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลอย่างลงตัว ที่นี่คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร และถ้าคุณกำลังมองหาความสงบและความสนุกสนานในเวลาเดียวกัน ตาบาร์กาคือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาดในทริปตูนิเซียของคุณ
ริบัตแห่งโมนาสตีร์ (Ribat of Monastir) ป้อมปราการที่เล่าเรื่องราวของความศรัทธาและความเข้มแข็ง
ริบัตแห่งโมนาสตีร์ (Ribat of Monastir) เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของตูนิเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโมนาสตีร์บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ป้อมปราการนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความศรัทธา ซึ่งเล่าเรื่องราวของความเข้มแข็งและความทุ่มเทในการปกป้องดินแดนจากศัตรู
ริบัตแห่งโมนาสตีร์มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยมีการออกแบบที่สวยงามและฟังก์ชันที่ชัดเจน ตัวป้อมปราการถูกสร้างขึ้นจากหินปูนและมีสีเหลืองอ่อนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เมื่อมองไปจากระยะไกล คุณจะเห็นหอคอยสูงตระหง่านที่ยืนอยู่เหนือชายฝั่ง ทำให้ที่นี่เป็นจุดสังเกตที่สำคัญในอดีต
ทางเข้าของริบัตถูกตกแต่งอย่างประณีต โดยมีประตูขนาดใหญ่ที่สร้างจากไม้ซึ่งถูกประดับด้วยลวดลายอิสลามแบบดั้งเดิม เมื่อก้าวเข้าไปในบริเวณ คุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศของความศักดิ์สิทธิ์และความเข้มแข็งที่แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ เมื่อคุณเข้าสู่ภายในริบัต คุณจะพบกับสนามกลางที่กว้างขวาง ซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงสูงที่ทำหน้าที่ป้องกันเมืองจากการโจมตี ในส่วนนี้มีห้องต่างๆ ที่เคยใช้เป็นที่พักของนักรบและผู้เผยแพร่ศาสนา
ที่นี่คือที่ซึ่งความเชื่อมั่นและศรัทธาในการปกป้องอาณาจักรได้รับการปลูกฝัง ห้องหลักของริบัตคือห้องที่ใช้สำหรับการสวดมนต์ ซึ่งมีเสาไม้ที่ตกแต่งอย่างสวยงามและมีรูปแบบอิสลามที่ละเอียดอ่อน ที่นี่เป็นสถานที่ที่ชาวมุสลิมใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจ และสามารถสัมผัสถึงความสงบสุขและความศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างชัดเจน
ริบัตแห่งโมนาสตีร์ไม่เพียงแต่เป็นป้อมปราการ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาในศาสนาอิสลามที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มันเป็นสถานที่ที่ช่วยให้ชาวมุสลิมสามารถปกป้องดินแดนจากการรุกรานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในอดีต ริบัตแห่งนี้เคยเป็นที่พักพิงของนักรบที่มีศรัทธาและความกล้าหาญ ที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อปกป้องประเทศจากศัตรู และในปัจจุบัน ยังมีการจัดงานเทศกาลและกิจกรรมทางศาสนาที่ดึงดูดผู้คนให้มาที่นี่
สรุป
ตูนิเซียเป็นประเทศที่น่าหลงใหลด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน คุณจะได้สัมผัสกับเมืองโบราณคาร์เธจที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมโรมัน พร้อมทั้งซากอาคารและอนุสาวรีย์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น เมืองตูนิสก็ไม่แพ้กัน มีบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ตลาดท้องถิ่นเต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของวัฒนธรรมที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกอีกใบ นอกจากความสวยงามทางประวัติศาสตร์แล้ว ตูนิเซียยังมอบประสบการณ์ธรรมชาติที่หลากหลาย
ตั้งแต่ชายหาดที่สวยงามริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงทะเลทรายสะฮาราอันกว้างใหญ่ ที่นี่คุณสามารถทำกิจกรรมสุดตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการขี่อูฐสำรวจทะเลทราย หรือการขับรถ ATV ผ่านเนินทรายที่น่าทึ่ง ตูนิเซียมีทุกสิ่งที่คุณต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักประวัติศาสตร์ที่หลงใหลในอดีต หรือเป็นนักผจญภัยที่ต้องการค้นหาสิ่งใหม่ ๆ มาร่วมสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในประเทศที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังนี้กันเถอะ
สนใจเลือกเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว
ช่องทางติดต่อได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 -17.00 น.
Line: @GoTogetherTravel
โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726