หากพูดถึงประเทศที่เล็กที่สุดในโลก แต่ยิ่งใหญ่ในแง่ศิลปะ ศรัทธา และประวัติศาสตร์ระดับโลก ชื่อของ นครรัฐวาติกัน (State of the Vatican City) ต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ที่นี่คือศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา และเป็นแหล่งรวมสมบัติทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าอย่างน่าอัศจรรย์

บทความนี้เรา gotogethertravel จะพาคุณไปเจาะลึกทุกมุมของวาติกันแบบครบครัน ตั้งแต่คำตอบว่า “ความเป็นมาของนครรัฐวาติกัน” ไปจนถึงการไล่เก็บ ไฮไลท์ห้ามพลาด, การ ชมศิลปะระดับโลกในพิพิธภัณฑ์วาติกัน, ความอลังการของ สถาปัตยกรรมที่งดงามเหนือกาลเวลา, เส้นทาง เดินเที่ยววาติกันแบบไม่หลง, การแวะ ซื้อของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ, พร้อม เคล็ดลับการแต่งกายและข้อปฏิบัติ ที่ควรรู้

นอกจากนี้ยังรวม คำถามที่พบบ่อย ที่นักท่องเที่ยวสงสัยบ่อย ๆ ให้คุณเตรียมตัวได้แบบมือโปร

หากคุณกำลังวางแผนไปอิตาลี และอยากสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสถานที่ที่ทรงพลังทั้งทางจิตวิญญาณและศิลปะอย่างแท้จริง นครรัฐวาติกัน คือลิสต์สำคัญที่ควรต้องปักหมุดไว้ในแผนการเดินทางของคุณ

สนใจเลือกเที่ยวอิตาลีไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว

ทัวร์อิตาลี

Line: @GoTogetherTravel โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726

ความเป็นมาของ นครรัฐวาติกัน ไขความลับประเทศเล็กที่สุดในโลกแต่ยิ่งใหญ่

หากพูดถึง “ประเทศ” หลายคนอาจนึกถึงพื้นที่กว้างใหญ่และประชากรนับล้าน แต่คุณรู้ไหมว่า “นครรัฐวาติกัน” (State of the Vatican City) คือประเทศที่ เล็กที่สุดในโลก ทั้งขนาดพื้นที่และจำนวนประชากร แต่กลับมีอิทธิพลอย่างมหาศาลในด้านศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์โลก

ความเป็นมาของนครรัฐวาติกัน

นครรัฐวาติกันก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1929 จาก สนธิสัญญาลาเตอแรน (Lateran Treaty) ระหว่างราชอาณาจักรอิตาลีกับสันตะสำนัก วัตถุประสงค์คือ เพื่อให้นครรัฐวาติกันมีสถานะเป็น รัฐอิสระ ที่แยกออกจากประเทศอิตาลี และเป็นที่ประทับของ พระสันตะปาปา ผู้นำสูงสุดของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก

แต่จริง ๆ แล้ว ประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้ยาวนานกว่านั้นมาก เพราะเคยเป็นที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และเป็นศูนย์กลางของคริสตจักรตั้งแต่ยุคจักรวรรดิโรมันแล้ว

ความสำคัญทางศาสนาและการเมืองของนครรัฐวาติกัน

วาติกันไม่ได้เป็นแค่ประเทศ แต่เป็น หัวใจของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีบทบาทในการเผยแพร่คำสอนและศาสนกิจไปทั่วโลก รวมถึงเป็นแหล่งรวมงานศิลปะระดับโลกอย่าง โบสถ์น้อยซิสทีน ที่มีภาพวาดเพดานโดยไมเคิลแองเจโล และ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ อันอลังการ

ในทางการเมือง นครรัฐวาติกันมีรูปแบบการปกครองเป็น ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ภายใต้ศาสนา โดยพระสันตะปาปาทรงดำรงตำแหน่งทั้งประมุขแห่งรัฐ และผู้นำศาสนา ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง

นครรัฐวาติกัน ทำไมจึงเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก

วาติกันมีพื้นที่เพียงประมาณ 0.49 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าบางสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ เสียอีก มีประชากรไม่ถึง 1,000 คน แต่ทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นี่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและการบริหารประเทศ

แม้จะมีขนาดเล็ก แต่วาติกันมีครบทั้งรัฐบาล กองกำลังรักษาความปลอดภัย (กองทหารสวิส), ระบบไปรษณีย์ของตัวเอง ไปจนถึงหนังสือเดินทางประจำชาติ ถือเป็นประเทศสมบูรณ์แบบที่เล็กที่สุดในเชิงภูมิศาสตร์และประชากร

ไฮไลท์ห้ามพลาดในนครรัฐวาติกัน เที่ยวครบจบแน่นอน

ใครมีโอกาสได้มาเยือน นครรัฐวาติกัน บอกเลยว่าคุณกำลังยืนอยู่ในหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่าที่สุดในโลก! ไม่เพียงแค่เล็กที่สุดในแผนที่ แต่กลับเต็มไปด้วยศิลปะ สถาปัตยกรรม และพลังแห่งศรัทธา บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 4 ไฮไลท์สุดพีค ที่มาแล้ว ห้ามพลาดเด็ดขาด

1. มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica)

หนึ่งในโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และถือเป็นหัวใจของนครรัฐวาติกัน ความอลังการของตัวมหาวิหาร ทั้งโดมสูงตระหง่านและรายละเอียดสถาปัตยกรรมที่วิจิตรบรรจง สะท้อนถึงศรัทธาและฝีมือของช่างฝีมือระดับตำนาน

ห้ามพลาด ปีนขึ้นไปชมวิวบนยอดโดม ชมทิวทัศน์กรุงโรมแบบพาโนรามาสุดตระการตา

2. จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Square)

ลานกว้างด้านหน้ามหาวิหารที่สามารถจุคนได้หลักแสน ออกแบบโดย Gian Lorenzo Bernini สถาปนิกชื่อดัง จัตุรัสแห่งนี้มักใช้เป็นที่จัดพิธีสำคัญของคริสตจักร

ไฮไลท์ ถ้ามาช่วงวันอาทิตย์ คุณอาจได้เห็นพระสันตะปาปาออกมาอวยพรจากหน้าต่างพระราชวัง

3. พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museums)

คลังศิลปะระดับโลกที่จัดแสดงผลงานจากยุคเรเนซองส์จนถึงโบราณวัตถุของอียิปต์และกรีก ภายในกว้างมาก ควรวางแผนล่วงหน้า แต่รับรองว่าทุกห้องคือขุมทรัพย์ทางศิลปะ

ของเด็ดที่ห้ามพลาด คือ ห้อง “Raphael Rooms” และ “Gallery of Maps” ที่จัดแสดงแผนที่โบราณสุดตื่นตา

4. โบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel)

ไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอย! โบสถ์น้อยที่มีเพดานวาดโดย ไมเคิลแองเจโล โดยเฉพาะภาพ “The Creation of Adam” ที่กลายเป็นไอคอนระดับโลก

บรรยากาศของที่นี่นั้น เงียบสงบ เต็มไปด้วยพลังทางจิตวิญญาณ ห้ามถ่ายรูป แต่ภาพในใจจะอยู่ตลอดไป

ชมศิลปะระดับโลกในพิพิธภัณฑ์วาติกัน – สวรรค์ของคนรักงานศิลป์

ถ้าคุณเป็นสายชอบงานศิลปะ หรืออยากสัมผัสความอลังการของโลกยุคเรอเนสซองส์สักครั้งในชีวิต ห้ามพลาด พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museums) หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ ดีที่สุดและทรงคุณค่าที่สุดในโลก ที่นี่คุณจะได้ชมงานศิลป์ของศิลปินระดับตำนาน ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงได้ทุกก้าวที่เดิน

ภาพวาดและงานประติมากรรมชื่อดัง

ภายในพิพิธภัณฑ์วาติกันเต็มไปด้วย ผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ ทั้งภาพวาด ผนัง เพดาน และงานประติมากรรมที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของศิลปะยุคต่าง ๆ

ห้ามพลาด

Laocoön and His Sons งานประติมากรรมจากยุคกรีกโบราณที่ทรงพลัง
Gallery of Maps ห้องแสดงแผนที่โบราณขนาดยักษ์ สวยตะลึงทุกตารางเมตร
Apollo Belvedere และ Belvedere Torso งานต้นแบบของสัดส่วนมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ผลงานของไมเคิลแองเจโล, ราฟาเอล และศิลปินยุคเรอเนสซองส์

พิพิธภัณฑ์วาติกันคือขุมทรัพย์ของศิลปะยุคเรอเนสซองส์ โดยเฉพาะผลงานของศิลปินระดับโลกอย่าง

ไมเคิลแองเจโล – โดยเฉพาะเพดานของ โบสถ์น้อยซิสทีน ที่โด่งดังไปทั่วโลก กับภาพ “The Creation of Adam” ที่สื่อถึงการสร้างมนุษย์โดยพระเจ้า
ราฟาเอล – กับ Raphael Rooms ที่เต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังสุดประณีต โดยเฉพาะภาพ “The School of Athens” ที่รวมปราชญ์ชื่อดังของโลกไว้ในภาพเดียว
Leonardo da Vinci – แม้ไม่มีผลงานตรงๆ ในพิพิธภัณฑ์ แต่แนวคิดและอิทธิพลของเขายังถูกนำเสนอในบริบทของศิลปะยุคเดียวกัน

วิธีจองตั๋วล่วงหน้าและทัวร์พร้อมไกด์

พิพิธภัณฑ์วาติกันขึ้นชื่อเรื่องคิวที่ยาวมากโดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น แนะนำให้ จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า ผ่านเว็บไซต์ทางการ หรือผู้ให้บริการทัวร์ที่น่าเชื่อถือ

ตัวเลือกที่แนะนำ

ตั๋วแบบ Skip-the-line (ไม่ต้องต่อคิว)
ทัวร์พร้อมไกด์ภาษาอังกฤษ/ไทย (เข้าใจลึกซึ้งกว่า!)
ทัวร์แบบ Early Entry (เข้าก่อนเวลาปกติ คนไม่เยอะ)

เคล็ดลับเล็กๆ เลือกเข้าช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และใส่รองเท้าที่เดินสบาย เพราะพื้นที่กว้างมาก

ความน่าทึ่งของสถาปัตยกรรมในวาติกัน – งดงามทุกมุม มหัศจรรย์ทุกรายละเอียด

การเยือน นครรัฐวาติกัน ไม่ได้เป็นเพียงแค่การมาเที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นการเดินทางเข้าสู่โลกแห่ง ศิลปะและสถาปัตยกรรม ที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก ทุกโค้ง ทุกเส้นสายล้วนผ่านการออกแบบอย่างประณีต และมีความหมายลึกซึ้งเกินกว่าที่ตาเห็น มาดูกันว่าอะไรทำให้ สถาปัตยกรรมในวาติกัน ยิ่งใหญ่น่าทึ่งแบบที่หาที่ไหนในโลกไม่ได้

โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ – สู่ฟ้าสวรรค์ด้วยโครงสร้าง

โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวาติกันและงานวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก ออกแบบโดย มิเกลันเจโล (Michelangelo) ในยุคเรอเนสซองส์ โดมนี้สูงถึง 137 เมตร จากพื้นดิน และถือเป็นต้นแบบของโดมในโบสถ์สำคัญทั่วโลก

ไฮไลท์ นักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นไปชมวิวจากด้านบนได้ เห็นทั้งนครวาติกันและกรุงโรมแบบพาโนรามา ช่วงเวลาที่ยืนบนยอดนั้นคือประสบการณ์สุดประทับใจที่คุณจะไม่มีวันลืม

สถาปัตยกรรมแบบบาโรกและเรอเนสซองส์ – ความสง่างามเหนือกาลเวลา

สถาปัตยกรรมในวาติกันสะท้อนยุคทองของศิลปะยุโรป โดยเฉพาะ ยุคเรอเนสซองส์และบาโรก ที่เน้นความสมมาตร ความกลมกลืน และการใช้แสงเงาให้เกิดอารมณ์

เรอเนสซองส์ – โครงสร้างแข็งแรง กลมกลืน สัดส่วนสมบูรณ์แบบ เช่น โบสถ์และห้องต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์วาติกัน
บาโรก – โดดเด่นด้วยความหรูหรา ลวดลายอลังการ และเส้นสายโค้งเว้า เช่น จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ที่ออกแบบให้เหมือนแขนที่เปิดรับผู้ศรัทธา

สัญลักษณ์และความหมายที่ซ่อนอยู่

สิ่งที่ทำให้สถาปัตยกรรมในวาติกันแตกต่าง คือ “ความหมายทางศาสนา” ที่ซ่อนอยู่ในทุกองค์ประกอบ

จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นแขนสองข้างที่เปิดกว้าง เหมือนพระเจ้าต้อนรับลูกหลาน
รูปปั้นและประติมากรรม สื่อถึงนักบุญ เหตุการณ์สำคัญในพระคัมภีร์ หรือแนวคิดทางจิตวิญญาณ
การจัดแสงในมหาวิหาร ไม่ได้แค่สวย แต่ยังสื่อถึง “แสงแห่งพระเจ้า” ที่ส่องนำทางผู้ศรัทธา

เดินเที่ยววาติกันแบบไม่หลง – เที่ยวครบในวันเดียว สนุก ได้ฟีลสุด ๆ

ใครว่าการเดินเที่ยว นครรัฐวาติกัน ต้องวุ่นวายหรือหลงทาง? บอกเลยว่า ไม่จริง! เพราะแม้จะเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก แต่สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งในวาติกันก็เรียงรายอยู่ใกล้กัน สามารถเดินชมได้ครบภายใน 1 วันแบบไม่เร่งรีบ พร้อมซึมซับบรรยากาศของศิลปะ ศรัทธา และความยิ่งใหญ่ที่สัมผัสได้ทุกก้าว

เส้นทางท่องเที่ยวแนะนำภายใน 1 วัน

08:30 น. – เริ่มต้นที่พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museums)
แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าแบบ Skip-the-line เพื่อเข้าได้เร็วไม่เสียเวลา ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ชม Raphael Rooms, Gallery of Maps และจบด้วยไฮไลท์ที่โบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel)

11:30 น. – เดินต่อมายังมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica)
ชมความอลังการของภายในมหาวิหาร และปีนขึ้นโดมเพื่อชมวิวพาโนรามาเมืองวาติกันและกรุงโรม

13:30 น. – พักกลางวันที่ร้านคาเฟ่แถบใกล้จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์
มีร้านอาหารท้องถิ่นและคาเฟ่น่ารัก ๆ มากมาย รสชาติอิตาเลียนแท้ ๆ ราคาย่อมเยา

15:00 น. – ชมจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Square)
ถ่ายภาพกับเสาโรมันและสถาปัตยกรรมบาโรกสุดงดงาม พร้อมซึมซับพลังแห่งศรัทธา

16:00 น. – เดินเล่นรอบ ๆ หรือช้อปของที่ระลึกในร้านของวาติกัน
มีของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ เช่น แสตมป์ ไปรษณียบัตร เหรียญ และหนังสือทางศาสนา

เวลาเปิด-ปิดของสถานที่ต่าง ๆ

พิพิธภัณฑ์วาติกัน เปิด 09:00 – 18:00 น. (ปิดวันอาทิตย์ ยกเว้นวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนที่เปิดฟรี)
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เปิด 07:00 – 18:30 น.
จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ เปิดเสมอ ไม่มีประตูทางเข้า-ออก

แนะนำ ไปเช้า ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น

ข้อควรระวังและมารยาทในการเข้าชม

แต่งกายสุภาพ ห้ามใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงสั้น
ห้ามใช้แฟลชหรือถ่ายรูปในโบสถ์น้อยซิสทีน
งดเสียงดัง เพราะหลายจุดเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
เคารพเจ้าหน้าที่และกฎระเบียบของสถานที่

ร้านของที่ระลึกและไปรษณีย์วาติกัน – ความพิเศษที่นักเดินทางไม่ควรพลาด

นอกจากศิลปะและสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ นครรัฐวาติกัน ยังมีอีกหนึ่งเสน่ห์ที่หลายคนอาจไม่รู้ นั่นก็คือ ร้านของที่ระลึกและไปรษณีย์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่สายสะสมหรือนักเดินทางตัวจริงห้ามพลาด ที่นี่คุณจะได้พบของฝากที่ไม่เหมือนใคร และยังสามารถส่งโปสการ์ดจากประเทศเล็กที่สุดในโลกได้จริง ๆ

แสตมป์วาติกันสุดหายาก

แสตมป์จากวาติกัน ถือเป็นหนึ่งในของสะสมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยการออกแบบที่สวยงาม มีรายละเอียดทางศาสนา ศิลปะ และประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง และที่สำคัญคือ ผลิตในจำนวนจำกัด และ ไม่มีขายในประเทศอื่น

นักสะสมจากทั่วโลกจึงยอมเดินทางมาซื้อถึงที่นี่ และแสตมป์หลายดวงก็กลายเป็นของหายากมูลค่าสูงในตลาดนักสะสม

ของฝากเฉพาะที่หาซื้อได้เฉพาะที่นี่

ร้านของที่ระลึกภายในวาติกันมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและศิลปะ เช่น

ลูกประคำ แหวนไม้กางเขน ทำจากไม้จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เหรียญวาติกัน ที่ออกแบบเป็นพิเศษในแต่ละปี
โปสเตอร์ ภาพพิมพ์ และหนังสือ เกี่ยวกับงานศิลป์ในพิพิธภัณฑ์วาติกัน
สินค้าพระสันตะปาปา เช่น รูป พระเครื่อง และพวงกุญแจ

ของที่ระลึกที่นี่มีทั้งของเล็กที่ราคาเบา ๆ ไปจนถึงของหายากสำหรับนักสะสม

ส่งโปสการ์ดจากไปรษณีย์วาติกัน

หนึ่งในกิจกรรมสุดคลาสสิกที่ห้ามพลาดคือ การส่งโปสการ์ดจากไปรษณีย์วาติกัน (Poste Vaticane) ถือเป็นหนึ่งในไปรษณีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก การส่งโปสการ์ดพร้อมแสตมป์วาติกันกลับไทยหรือให้ตัวเอง ถือเป็นของฝากทางใจสุดพิเศษที่ไม่มีใครเหมือน

ขั้นตอนง่าย ๆ คือ

เลือกโปสการ์ดที่ชอบ
ซื้อแสตมป์จากร้านขายของที่ระลึกหรือที่ไปรษณีย์
เขียนข้อความสั้น ๆ ถึงเพื่อนหรือครอบครัว
หยอดลงตู้ไปรษณีย์สีเหลืองสดใสของวาติกัน

เคล็ดลับการแต่งกายและข้อปฏิบัติในวาติกัน – แต่งตัวให้เป๊ะ เคารพสถานที่ให้ถูกต้อง

การไปเยือน นครรัฐวาติกัน ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวชมความสวยงามทางศิลปะและสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นการเข้าไปในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรระดับโลกด้วย ดังนั้นการแต่งกายและพฤติกรรมจึงควรให้เกียรติสถานที่ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์แบบไร้สะดุด พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม

การแต่งกายเพื่อเข้าโบสถ์

หนึ่งในกฎที่เคร่งครัดมากคือ การแต่งกายสุภาพ โดยเฉพาะเมื่อจะเข้า มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ หรือโบสถ์น้อยซิสทีน

ต้องระวัง

ห้ามใส่เสื้อแขนกุด เสื้อกล้าม หรือเสื้อเอวลอย
ห้ามใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น หรือกางเกงรัดรูป
รองเท้าแตะเปิดนิ้วสามารถใส่ได้ แต่ไม่แนะนำ

เคล็ดลับ พกเสื้อคลุมบาง ๆ หรือผ้าพันไหล่ติดตัวไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉิน

สิ่งของต้องห้ามในการพกเข้า

เพื่อความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย วาติกันมีกฎเรื่องสิ่งของต้องห้ามที่ชัดเจนมาก

ห้ามนำเข้า

อาวุธ ของมีคม หรือสเปรย์พริกไทย
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อาหารที่มีกลิ่นแรง
กระเป๋าขนาดใหญ่หรือสัมภาระเกินจำเป็น (มีจุดฝากของให้บริการ)

ก่อนเข้าชมทุกสถานที่ นักท่องเที่ยวจะต้องผ่านจุด ตรวจความปลอดภัย (Security Check) คล้ายกับสนามบินเลยทีเดียว

การถ่ายภาพและใช้โทรศัพท์มือถือ

แม้หลายจุดในวาติกันจะสวยงามจนอยากเก็บภาพทุกมุม แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ

สิ่งที่ทำได้

ถ่ายภาพได้ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ และหลายพื้นที่ในพิพิธภัณฑ์ (แต่ควรปิดแฟลช)
ใช้มือถือถ่ายภาพได้ทั่วไป แต่ควรตั้งโหมดเงียบ

ทำไม่ได้เด็ดขาด

ห้ามถ่ายภาพและวิดีโอใน โบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel)
ห้ามใช้ไม้เซลฟี่หรือขาตั้งกล้อง
ห้ามคุยโทรศัพท์เสียงดังในโซนเงียบ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับนครรัฐวาติกัน

Q:ต้องใช้วีซ่าหรือไม่สำหรับคนไทย?

A:คนไทยต้องขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) เพื่อเข้าประเทศอิตาลี ซึ่งรวมถึงการเดินทางเข้าสู่นครรัฐวาติกันด้วย เพราะแม้ว่าวาติกันจะเป็นประเทศอิสระ แต่ ไม่มีด่านตรวจคนเข้าเมืองแยกจากอิตาลี

สรุปง่าย ๆ

หากคุณมีวีซ่าเชงเก้นอยู่แล้ว ก็สามารถเข้าเที่ยววาติกันได้เลย
ไม่ต้องยื่นขอวีซ่าแยกต่างหากสำหรับวาติกัน

Q:วิธีเดินทางจากสนามบินหรือใจกลางโรม

A:วาติกันตั้งอยู่กลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี สามารถเดินทางได้ง่ายดายจากสนามบินหลักอย่าง Fiumicino (FCO) หรือ Ciampino (CIA) รวมถึงจากย่านสำคัญในกรุงโรม

จากสนามบิน

รถไฟ Leonardo Express จากสนามบิน Fiumicino มายังสถานี Termini ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จาก Termini ต่อ รถไฟใต้ดินสาย A (Metro Line A) ลงที่สถานี Ottaviano หรือ Cipro แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5-10 นาทีถึงวาติกัน

จากใจกลางโรม

รถไฟใต้ดินสาย A เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด
หรือจะนั่งรถเมล์สาย 40, 64 ก็ได้ แต่ต้องเผื่อเวลารถติด

Q:ใช้เงินอะไรในวาติกัน?

A:แม้จะเป็นประเทศอิสระ แต่วาติกันก็ใช้ เงินยูโร (€) เหมือนกับประเทศอิตาลี เนื่องจากมีข้อตกลงร่วมทางการเงิน

คำแนะนำ

พกเงินสดติดตัวไว้เล็กน้อย เพราะร้านของที่ระลึกบางแห่งอาจไม่รับบัตร
เครื่องรูดบัตรเครดิตมีใช้ทั่วไปในพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร

Q:ใช้ภาษาอะไรในการสื่อสาร?

A:ภาษาทางการของวาติกันคือ ภาษาละติน แต่ในการสื่อสารจริง มักใช้ ภาษาอิตาเลียน เป็นหลัก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่และไกด์

ข่าวดีคือ

คนส่วนใหญ่ที่ทำงานในแหล่งท่องเที่ยวพูด ภาษาอังกฤษ ได้ดี
ป้ายต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์หรือมหาวิหาร มักมีคำอธิบายภาษาอังกฤษกำกับ

เคล็ดลับ เตรียมคำทักทายง่าย ๆ ภาษาอิตาเลียน เช่น Ciao (สวัสดี), Grazie (ขอบคุณ) ไว้ ก็สร้างรอยยิ้มได้แน่นอน!

Q:เด็กและผู้สูงอายุเที่ยววาติกันได้ไหม?

A:ได้แน่นอน วาติกันเป็นสถานที่ที่ เหมาะสำหรับทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุ

มีทางลาดและลิฟต์ในหลายพื้นที่
มีที่นั่งพักตามจุดต่าง ๆ ในพิพิธภัณฑ์

สำหรับเด็ก

พิพิธภัณฑ์มีโซนที่เด็กสนุกได้ เช่น ห้องแผนที่สีสันสดใส
พ่อแม่ควรเตรียมน้ำ ของว่าง และรองเท้าสบาย ๆ ให้ลูกเพราะต้องเดินเยอะ