สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว “อิรัก” (Iraq) แหล่งอารยธรรมเมโสโปเตเมีย ดินแดนแห่งพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์

 


เที่ยวประเทศอิรัก ดินแดนแห่งพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ ที่เพียบพร้อมไปด้วยแหล่งอารยธรรมอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีผู้แสวงบุญจากทั่วมุมโลกเดินทางมาเข้าร่วมแสวงบุญ ซึ่งดินแดนแห่งนี้เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการมาเยือน เนื่องจากข่าวสงครามที่มีความรุนแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้มาเที่ยว แต่ที่จริงแล้วนั้นอิรักไม่ได้มีแต่เรื่องร้ายๆ เสมอไปนะคะ เพราะข่าวสารต่างๆ มักบอกเล่าเพียงแต่เรื่องไม่ดีเพียงอย่างเดียว หากคุณอยากลองสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเส้นทางใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยอารยธรรมสุดตระการตา และอยากที่จะผจญภัยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ จะมีอะไรบ้างนั้น ก็ขอแนะนำให้ลองมาเที่ยวในประเทศนี้ดูสักครั้ง โดยไปเยือนสถานที่ที่เราแนะนำ ดังนี้ค่ะ

33518089948 0f6fa39e53 b             ประเทศอิรัก (Iraq) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐอิรัก เป็นประเทศในตะวันออกกลาง มีอาณาเขตทางทิศเหนือจรดประเทศตุรกี ทางทิศตะวันออกจรดประเทศอิหร่าน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จรดประเทศคูเวต ทางทิศใต้จรดประเทศซาอุดีอาระเบีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จรดประเทศจอร์แดน และทางทิศตะวันตกจรดประเทศซีเรีย กรุงแบกแดด ซึ่งเป็นเมืองหลวง ตั้งอยู่ในกลางประเทศ ราว 97% ของประชากรอิรัก 36 ล้านคนเป็นชาวมุสลิม ส่วนใหญ่มีเชื้อสายซุนนีย์ ชีอะฮ์และเคิร์ด

             เมื่อท่านเดินทางเยือนอิรัก จะต้องไม่พลาดกับสถานที่ที่มีความสำคัญทางศิลปวัฒนธรรมและทางศาสนา ชมเมืองโบราณบาบิโลน 1 ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนลอยแห่งบาบิโลน (Hanging Gardens of Babylon)

40415337013 dc3e9b5138 b

40415340193 20f66f294e b

46657392414 c095e1c4b4 b

40415105793 48868ce605 b

             ชมมัสยิดแห่งซามาร่า (The Great Mosque of Samarra) มัสยิดเก่าแก่ ในสมัยศตวรรษที่ 9 สร้างโดยกาหลิบ อัล มูตาวัคคิล (Caliph Al-Mutawakkil) ราชวงศ์อับบาสิด (Abbasid) ซึ่งพระองค์เป็นผู้ปกครองในแคว้นซามาร่า ในช่วงตั้งแต่ปี ค.ศ. 847 จนถึงปี ค.ศ. 861 ซึ่งนับเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงเวลานั้น

46655091774 dc99ce4942 b

33501960878 612ff2252c b

             ชมเมืองศักดิ์สิทธิ์ กาบาร่า (Karbara) ซึ่งชาวมุสลิมชีอะห์ถือว่าเมืองนี้เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่ากับ เมกกะ เมดีน่า และเยรูซาเล็ม ชาวมุสลิมชีอะห์หลายล้านคนมาแสวงบุญที่นี่ปีละ 2 ครั้ง และมีสถานที่ที่น่าสนใจคือ ป้อมปราการ อัล อูไคเดีย (Al Ukhaidir Fortress)

32447078177 7f01e7a0c2 b

40423419913 71243f5673 b

47336159972 e5972aa744 b

47388956961 cd8e87ddc5 b

             ชมประตูอิชตาร์ (Ishtar Gate) ที่มีชื่อเสียง ซึ่งปัจจุบันประตูของจริงได้มีการจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์เปอร์กามอน (Pergamon Museum) ในกรุงเบอร์ลิน แต่ที่นี่ท่านจะเห็นประตูอิชตาร์จำลอง และโครงสร้างเดิมของประตูที่มีการแกะสลักที่งดงาม

16367458803 9aaf052bd3 b

4632479393 05912c5d16 b

47380488471 7b99f2e914 b

47380491061 89c32c05fa b

เดินทางมาเยือนเมืองนาจาฟ (Najaf) เมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์

4572781760 bfa84c8d1c o

8181839241 b194da6601 b

32457610677 63d999c568 b

บริเวณที่ตั้งของเมืองนาจาฟมีสถานที่สำคัญทางศาสนาคือ มัสยิดและหลุมฝังศพ อิหม่ามอาลี (Imam Ali Mosque) ซึ่งเป็นที่ฝังพระศพของอิหม่าม อาลี ซึ่งเป็นญาติของท่านมูฮัมหมัด และชาวชีอะห์ยังเชื่อว่าภายในมัสยิดเป็นที่ฝังร่างของอดัม และนูห์ หรือ โนอาห์ อีกด้วย ในแต่ละปีมีชาวมุสลิมนิกายชีอะห์มาแสวงบุญที่นี่เป็นจำนวนมาก

จากนั้นชมเมืองโบราณอูร์ (Ur) เมืองต้นกำเนิดอารยธรรมสุเมเรียนของชาวซูเมอร์ (Sumer) และมีสถานที่ท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์คือ ซิกกูรัตแห่งอูร์ (Ziggurat of Ur)

46691181304 71de36640c b

46691178864 a2fcd534c4 b

46691173474 53fba4053a b

ซึ่งมีหอคอยแห่งบาเบล (Tower of Babel) ที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์ ภายในอาคารวิหารถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการบวงสรวงเทพเจ้า ซึ่งชาวซูเมเรียนเชื่อกันว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าซิน หรือ เทพเจ้านันนา (God Sin or God Nanna) ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงจันทร์ ใจกลางของซิกกูรัตมีซากปรักหักพัง ที่คาดว่าน่าจะเป็นวิหารสำหรับใช้เป็นศูนย์กลางในการบริหารเมือง แหล่งโบราณคดีเมืองอูร์แห่งนี้ เชื่อกันว่าเป็นบ้านเกิดของศาสดาอับราฮัมเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอีกด้วยค่ะ

              และล่องเรือในหนองน้ำแห่งลุ่มแม่น้ำไทกริส (Mesopotamian Marshes) เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดใจผู้คนได้อย่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ

9703456798 72b55f7dc5 o

46691819294 508371bf28 b

40449509593 e661ee10f7 b

46499783195 42da94fa81 b

46691786984 38fa976ee6 b

             ล่องเรือในลุ่มแม่น้ำไทกริส เพื่อชมสภาพความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่นที่หาชมได้ยากตามหนองน้ำบนลุ่มแม่น้ำไทกริส ที่จัดเป็นหนึ่งในระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณนี้มนุษย์อาศัยอยู่ร่วมเคียงข้างกับธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ได้อย่างกลมกลืน ถึงแม้ว่าบริเวณนี้เคยถูกนโยบายทางการเมืองในการขับไล่ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ให้ออกจากพื้นที่ให้หมด ในช่วงการปกครองของซัดดัม ฮุสเซน แต่ชาวบ้านยังคงรักและหวงแหนในดินแดนถิ่นกำเนิดของตน

              นอกจากนี้ยังมีแหล่งช้อปปิ้งในตลาดพื้นเมืองให้เราให้ช้อปกันตลอดทริปเช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ พรม เครื่องไม้ เครื่องแก้ว กระเบื้องเซรามิก ผลไม้ขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาดคือ อินทผลัม อินทผลัมอบแห้ง คุ้กกี้อินทผลัมเป็นต้น เพื่อเป็นของฝากที่ระลึกกลับบ้าน

46638813874 1ba836309a b

46651359034 20c3ae0ed9 b

46651368174 39531f4f19 b

46691075764 178c0b7ccd b

47361898411 4f77eeb8e3 b

andre klimke puAFE oULDA unsplash

32472172587 bf2a46ef5c b

ข้อห้าม

1.เนื่องจากประเทศอิรักเป็นประเทศมุสลิมจึงไม่ควรนําอาหารที่เป็นหมูเข้าประเทศ
2.ห้ามถ่ายภาพทางเครื่องบินและไม่ควรถ่ายภาพสตรีในชุดคลุมปิดหน้าตามประเพณีท้องถิ่นโดย ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวก่อน รวมทั้งการถ่ายภาพในสถานที่ราชการต่างๆ
3.ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้าประเทศ
4.ห้ามสูบบุหรี่ในพาหนะขนส่งสาธารณะทุกอย่าง รวมท้ังเครื่องบินภายในประเทศ อาคาร สถานที่สาธารณะและร้านอาหารบางแห่งก็ห้ามสูบบุหรี่เช่นกันก่อนออกจากบ้าน กระเป๋าทุกใบควรผูกป้ายชื่อกระเป๋าและใส่กุญแจให้เรียบร้อย กระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต บัตรเครดิตเอกสารสำคัญกล้องถ่ายรูป และกล้องวิดีโอ ยาประจำตัวติดตัวเสมอ


             นอกจากสถานที่ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อิรักเป็นประเทศจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ภูมิภาคนี้ได้รับอิทธิพลจากสังคมต่างๆ ที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้สร้างวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน และอยากที่จะผจญภัยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเช่น พิพิธภัณฑ์ อนุสาวรีย์ พระราชวังมากมายที่ทำให้คุณได้ชมความงามตระการตา ก็ขอแนะนำให้ลองมาเที่ยวในประเทศอิรักดูสักครั้งค่ะ