ดินแดนยุโรปคือดินแดนที่มีแต่ความสวยงามและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่จำนวนมากมาย และมีหลายๆ จุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมขึ้นชื่ออย่างมาก จนได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว แต่ก็มีอีกหนึ่งประเทศที่ดูเหมือนว่าจะนอกสายตาใครหลายๆ คนอย่าง โครเอเชีย ที่นับว่ามีความสวยงามและน่าสนใจในการมาเที่ยวไม่น้อยไปกว่าประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง ดูบรอฟนิก ก็นับว่ามีความสวยงามและน่ามาเที่ยวชมซักครั้งหากคุณมีโอกาสมาเที่ยวยุโรป
ดูบรอฟนิค (dubrovnik) คือเมืองโบราณสุดโด่งดังของประเทศโครเอเชีย ภาพเมืองสีส้นที่เหมือนหลุดออกมาจากสมัยยุคกลางดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาที่นี้ ได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” ด้วยความลงตัวของสถาปัตยกรรมและผังเมืองที่เป็นระเบียบ เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง สร้างโบสถ์ วิหาร จัตุรัส น้ำพุ และบ้านเรือนต่างๆ และได้รับการบูรณะและปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัย ทำให้ในตัวเมืองดูบรอฟนิค เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ทั้งโกธิก เรอเนสซองส์ และบาร็อค บรรยากาศสงบ เย็นสบาย ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป เพราะมีภูมิอากาศเป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียน อุณหภูมิระหว่างปีของเมืองนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 17 องศา ไม่หนาวไม่ร้อน ในหน้าหนาวอากาศประมาณ 10 องศา อาจมีฝนตก แต่หิมะไม่มีบ่อยนัก ดูบรอฟนิกจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเทียวทั่วโลกจะต้องไปเยือน
เขตเมืองเก่า (Old Town) ของเมืองดูบลอฟนิค ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979 ชมทัศนียภาพของตัวเมืองเก่ามีป้อมปราการโบราณล้อมรอบ
กำแพงเมืองโบราณ (City Walls) ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองดูบรอฟนิค ที่มีกำแพงยาวประมาณ 1,940 เมตร สูง 25 เมตร สลับด้วยหอรบ 5 หอ หอคอยทรงกลม 3 หอ และทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า 12 หอ สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ได้ชื่อว่ามีความมั่นคงและแข็งแกร่งที่สุดในน่านน้ำนี้ ใช้ป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกเซิร์บ อาหรับ เป็นต้น แม้ปัจจุบันก็ยังใช้งานได้อยู่ กำแพงเมืองเก่าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้วย