Dolomites (โดโลไมท์) ถือเป็นหนึ่งในเทือกเขาที่สวยงามที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใน แคว้นเวเนโต (Veneto), เทรนติโน-อัลโต อาดิเจ (Trentino-Alto Adige) และฟรีอูลี-เวเนเซีย จูเลีย (Friuli-Venezia Giulia) ทางตอนเหนือของอิตาลี มีทิวทัศน์อันน่าทึ่งของ ยอดเขาหินปูนสูงตระหง่าน ทะเลสาบสีฟ้าคราม และหุบเขาอันกว้างใหญ่ จนได้รับการขึ้นทะเบียน มรดกโลกทางธรรมชาติโดยยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) อีกด้วย

ซึ่งในวันนี้ทางบริษัทนำเที่ยวชั้นนำ gotogethertravel จะพาคุณไปรู้จักสถานที่ที่ชื่อว่า Dolomites (โดโลไมท์) ให้มากยิ่งขึ้น และบอกเหตุผลต่างๆ ว่าทำไมคุณถึงจะต้องมาเที่ยวที่นี่ และทำไมที่นี่ถึงเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกัน รวมไปถึง นักเดินเขา นักสกี หรือคนที่รักธรรมชาติ ไฮไลท์สำคัญของ Dolomites จะมีอะไรกันบ้าง ,เที่ยว Dolomites ช่วงไหนดี ,เทศกาลและอีเวนต์สำคัญใน Dolomites ,อาหารท้องถิ่นของที่นี่ และคำถามที่พบบ่อย ฉะนั้นแล้วไปรับชมกันได้เลยยยย

สนใจเลือกเที่ยวอิตาลีไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว

ทัวร์อิตาลี

Line: @GoTogetherTravel โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726

โดโลไมท์ (Dolomites) กับความสำคัญทางธรรมชาติและมรดกโลก

Dolomites (โดโลไมท์) เป็นหนึ่งในเทือกเขาที่งดงามและโดดเด่นที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี ครอบคลุมพื้นที่กว่า 141,000 เฮกตาร์ Dolomites ไม่เพียงแต่เป็น จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทาง แต่ยังเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าทางธรรมชาติและธรณีวิทยาอย่างมหาศาล

ในปี 2009 Dolomites ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) เนื่องจากมี ลักษณะธรณีวิทยาเฉพาะตัวและความงดงามทางธรรมชาติ พืชอัลไพน์หายาก เช่น Edelweiss และ Gentian และสัตว์ป่าหายากเช่น🦌 Alpine Ibex (แพะภูเขาอัลไพน์) และ 🦅 Golden Eagle (นกอินทรีทอง)

โดยชื่อ Dolomites นั้นได้ชื่อมาจาก แร่โดโลไมต์ (Dolomite Rock) ซึ่งเกิดจาก ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลเมื่อกว่า 250 ล้านปีก่อน จนถึงปัจจุบันนี้จึงได้กลายเป็นยอดเขาหินปูนสูงชันที่มีลวดลายและสีสันเฉพาะตัว โดยหินปูนชนิดพิเศษนี้เองที่ทำให้ภูเขาเหล่านี้มีสีขาว และเปลี่ยนเป็นสีชมพู – ส้มในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่เรียกกันว่า “Alpenglow” หรือ “Enrosadira” นั่นเอง ที่ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ Dolomites มีเสน่ห์ไม่เหมือนที่ไหน

นอกจากนี้ที่นี่ยังมี ภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ ยอดเขาสูง, หุบเขาลึก, ทะเลสาบสีฟ้าคราม ไปจนถึงทุ่งหญ้าอัลไพน์กว้างใหญ่ เช่น สามยอดเขา Tre Cime di Lavaredo ,ทะเลสาบสีมรกต Lago di Braies และหน้าผาสูงชัน Seceda ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Dolomites

ไฮไลท์สำคัญของ โดโลไมท์ (Dolomites) ที่ต้องไปเยือน สัมผัสธรรมชาติสุดอลังการในอิตาลี

Dolomites (โดโลไมท์) คือหนึ่งในเทือกเขาที่สวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี เต็มไปด้วย ยอดเขาหินปูนสุดตระการตา ทุ่งหญ้าอัลไพน์กว้างใหญ่ และทะเลสาบสีมรกต จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCO และนี่คือ 4 ไฮไลท์สำคัญที่ต้องไปเยือน เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของดินแดนอัลไพน์แห่งนี้ให้ได้หากคุณได้มากเที่ยวที่นี่ในปี 2025

1. Tre Cime di Lavaredo – สามยอดเขาอันเลื่องชื่อ

Tre Cime di Lavaredo หรือที่รู้จักในภาษาเยอรมันว่า Drei Zinnen เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สวยงามและโดดเด่นที่สุดในเทือกเขาแอลป์ โดยเฉพาะในเขต Dolomites ของอิตาลี ด้วยยอดเขาหินปูนทรงแหลมสามยอดที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางธรรมชาติ ทำให้ที่นี่กลายเป็น แลนด์มาร์กสำคัญของนักปีนเขาและนักเดินป่า ที่ตั้งยู่ในอุทยานธรรมชาติ Tre Cime Natural Park ในแคว้น South Tyrol และ Veneto ทางตอนเหนือของอิตาลี

Tre Cime di Lavaredo เป็นกลุ่มภูเขาหินปูนที่มี สามยอดหลัก ซึ่งมีความสูงต่างกัน ได้แก่

Cima Grande (ยอดกลาง) – 2,999 เมตร
Cima Ovest (ยอดตะวันตก) – 2,973 เมตร
Cima Piccola (ยอดตะวันออก) – 2,857 เมตร

Tre Cime di Lavaredo ยังเป็นหนึ่งใน สถานที่ปีนหน้าผาที่ดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะสำหรับนักปีนเขาที่มีประสบการณ์ และยังมีเส้นทางปีนเขาที่มีชื่อเสียง เช่น Comici Route บน Cima Grande หรือหากคุณชื่อชอบการเดินป่าที่นี่มี เส้นทางเดินป่า Tre Cime di Lavaredo Loop ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร โดยใช้เวลาในการเดินประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยสามารถหยุดพักและชมวิวแบบพาโนรามาได้ตลอดเส้นทางอีกด้วย

💰 ค่าเข้า

ค่าใช้จ่ายสำหรับ ทางขึ้นรถยนต์ ไปยัง Rifugio Auronzo (ที่จอดรถหลัก) ประมาณ 30 ยูโร
ค่าโดยสารรถบัสจาก Misurina ประมาณ 5-10 ยูโร

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mBuLxfSpMuN2JqKQA

2. Alpe di Siusi – ทุ่งหญ้าอัลไพน์สุดงดงาม

Alpe di Siusi หรือที่รู้จักในภาษาเยอรมันว่า Seiser Alm เป็น ทุ่งหญ้าอัลไพน์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเขต Dolomites ของอิตาลี ทุ่งหญ้าแห่งนี้มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร เพราะเต็มไปด้วย ทิวทัศน์ภูเขาสูงตระหง่าน ทุ่งดอกไม้ป่าสีสันสดใส ครอบคลุมพื้นที่กว่า 56 ตารางกิโลเมตร และล้อมรอบด้วยยอดเขาอันโดดเด่น และกระท่อมไม้แบบอัลไพน์แบบดั้งเดิม (Mountain Huts หรือ Rifugios) ที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้ที่นี่นั้นเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับ การเดินป่า ขี่จักรยาน เล่นสกี และการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ

นอกจากนี้ Alpe di Siusi ยังเป็นสวรรค์ของนักเดินป่า มีเส้นทางให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ระดับง่ายไปจนถึงท้าทาย อย่าง Compaccio to Saltria (ง่าย) – เดินชิลล์ ๆ ชมวิว โดยใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง หรือเดินป่า Hans and Paula Steger Trail (ปานกลาง) – เส้นทางไปยัง Sassolungo และ Sassopiatto โดยใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง หากยังท้าทายไม่พอเราขอแนะนำเดินป่า Sciliar Ridge Hike (ท้าทาย) – เดินขึ้นยอด Sciliar ใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง

💰 ค่าใช้จ่าย

ค่ารถกระเช้าประมาณ 20-30 ยูโร (ไป-กลับ)
ถ้าขับรถขึ้นเอง ต้องจอดที่จุดจอดรถแล้วต่อรถบัส

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fLdxfz435QCTj87D8

3. Lago di Braies – ทะเลสาบสีมรกตแห่ง Dolomites

Lago di Braies หรือที่รู้จักในภาษาเยอรมันว่า Pragser Wildsee เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในเทือกเขา Dolomites ของอิตาลี ด้วยน้ำสีเขียวมรกตสดใสที่สะท้อนภาพของภูเขาอันยิ่งใหญ่รอบตัว ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่ง Dolomites” เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักเดินทาง ช่างภาพ และคู่รักที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศอันแสนโรแมนติก

อย่างที่บอกข้างต้น ไฮไลต์สำคัญของที่นี่คือ น้ำทะเลสาบที่เป็นสีฟ้าอมเขียวสดใส ซึ่งเปลี่ยนเฉดสีไปตามฤดูกาล ล้อมรอบด้วย ยอดเขา Seekofel (2,810 เมตร) ซึ่งสะท้อนลงผืนน้ำราวกับกระจก นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ไม้เล็ก ๆ (Cappella di Lago di Braies) ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ เพิ่มความขลังและโรแมนติกให้อีกด้วย

และที่สำคัญห้ามพลาดกิจกรรมของที่นี่ โดยหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ การพายเรือไม้กลางทะเลสาบ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศสุดโรแมนติก ราคาเช่าเรือไม้ก็ไม่แพงมากนักอยู่ที่ 30-50 ยูโร / 30 นาที – 1 ชั่วโมง

สำหรับนักเดินป่าฝึกหัด ที่นี่มีเส้นทางเดินป่ารอบทะเลสาบ (Lago di Braies Loop Trail) ระยะทาง ~3.5 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง แน่นอนว่าเป็นเส้นทางที่เดินง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มีจุดชมวิวจากมุมสูง ให้ภาพทะเลสาบในมุมพาโนรามาสุดตระการตาอีกด้วยนะ

💰 ค่าเข้าชม ฟรี (แต่มีค่าจอดรถประมาณ 6-10 ยูโรนะจ๊ะ)

⏰ เวลาเปิด-ปิด เปิดให้เข้าชมตลอดปี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Ztzpv2JHwsyA6dDt8

4. Seceda – หน้าผาสูงชันพร้อมวิวพาโนรามา

Seceda เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยงามและโดดเด่นที่สุดในเทือกเขา Dolomites ของอิตาลี ด้วยลักษณะของ ยอดเขาหินแหลมที่พุ่งขึ้นจากพื้นดินเป็นแนวหน้าผาสูงชัน ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของ นักเดินป่า นักถ่ายภาพ และนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติ

จากยอดเขา Seceda นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวแบบ 360 องศา ของหุบเขาอันกว้างใหญ่ และมองเห็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ของ Dolomites เช่น Sassolungo, Sella Group และ Marmolada วิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกของที่นี่ถือเป็นหนึ่งในวิวที่สวยที่สุดในอิตาลี

หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของ Seceda คือ กระท่อมไม้ดั้งเดิม (Rifugios) ที่สามารถแวะพักและทานอาหารท้องถิ่น เช่น

Speck & Cheese Platter แฮมรมควันและชีสพื้นเมือง

Knödel (Dumplings) เกี๊ยวอิตาเลียนสไตล์ออสเตรีย

Strudel พายแอปเปิลที่ขึ้นชื่อของแคว้น South Tyrol

สำหรับผู้ที่รักการเดินป่า Seceda เป็นหนึ่งในเส้นทางที่ดีที่สุดใน Dolomites เส้นทางแนะนำ คือ

Seceda – Rifugio Firenze (ง่าย) – เดินสั้น ๆ ชมวิว ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง
Seceda – Pieralongia – Col Raiser (ปานกลาง) – เดินผ่านกระท่อมและทุ่งหญ้า ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง
Seceda – Puez-Odle Nature Park (ท้าทาย) – เดินขึ้นเขาระยะไกล ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง

💰 ค่าเข้าชม ฟรี (แต่ต้องจ่ายค่ากระเช้าไฟฟ้า)

⏰ เวลาเปิด-ปิด กระเช้าไฟฟ้าเปิดให้บริการเฉพาะ ช่วงกลางเดือนมิถุนายน – ตุลาคม และธันวาคม – เมษายน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/obco44n4XUFnqxVu9

เทศกาลและอีเวนต์สำคัญใน โดโลไมท์ (Dolomites) สนุกกับวัฒนธรรมและกีฬากลางแจ้งสุดมันส์

Dolomites (โดโลไมท์) ไม่ได้มีดีแค่วิวสวยราวกับเทพนิยาย แต่ยังเป็นศูนย์กลางของ เทศกาลและอีเวนต์สำคัญมากมาย ทั้งด้าน วัฒนธรรม, อาหารพื้นเมือง และการแข่งขันกีฬากลางแจ้งระดับโลก

หากคุณอยากสัมผัสบรรยากาศของ Dolomites ให้เต็มอิ่ม ลองวางแผนเที่ยวให้ตรงกับเทศกาลเหล่านี้ รับรองว่าสนุกและได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วยจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

เทศกาลวัฒนธรรมและอาหารพื้นเมือง

1. Dolomites Cheese Festival (เทศกาลชีสโดโลไมท์ส) – เทศกาลเพื่อคนรักชีส

📆 จัดขึ้นทุกเดือนกันยายน
📍 เมือง San Candido และ Alta Badia

ไฮไลต์ของเทศกาลนี้คือ ชีสหายากจากฟาร์มท้องถิ่น ซึ่งทำจากนมวัวที่เลี้ยงบนทุ่งหญ้าอัลไพน์ นอกจากนี้ยังมี เวิร์กช็อปสอนทำชีส และโอกาสลิ้มลองไวน์อิตาลีรสเลิศที่เข้ากันกับชีสได้อย่างลงตัว

เคล็ดลับ อย่าลืมลอง Puzzone di Moena หนึ่งในชีสที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูมิภาคนี้อย่างเด็ดขาดดด

2. Christmas Markets in Dolomites – เทศกาลคริสต์มาสสุดโรแมนติก

📆 จัดขึ้นระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นมกราคม
📍 เมือง Bolzano, Bressanone, และ Cortina d’Ampezzo

ตลาดคริสต์มาสใน Dolomites เป็นหนึ่งในตลาดที่ สวยที่สุดในอิตาลี ตกแต่งด้วยไฟระยิบระยับและกระท่อมไม้ที่ขายของขวัญแฮนด์เมด อาหารพื้นเมือง และเครื่องดื่มอุ่นๆ

ไฮไลต์ห้ามพลาด

Vin Brulé (ไวน์ร้อนเผ็ดร้อน)
Strudel แอปเปิ้ลอบอุ่นๆ
ของที่ระลึกทำมือ เช่น งานแกะสลักไม้และของประดับตกแต่งคริสต์มาส

เคล็ดลับ ถ้าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศคริสต์มาสแบบยุโรปแท้ๆ Dolomites คือตัวเลือกที่ใช่แน่นอน

การแข่งขันกีฬากลางแจ้งระดับโลก

1. Maratona dles Dolomites – งานปั่นจักรยานระดับตำนาน

📆 จัดขึ้นทุกปีในเดือนกรกฎาคม
📍 เส้นทางผ่านภูเขา Dolomites หลายจุด

Maratona dles Dolomites เป็น การแข่งขันจักรยานทางไกลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน Dolomites มีนักปั่นจากทั่วโลกเข้าร่วมเพื่อทดสอบพละกำลัง บนเส้นทางที่ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ภูเขาสูงเสียดฟ้า

เคล็ดลับ ใครที่ไม่อยากแข่ง สามารถมาปั่นแบบสมัครเล่นตามเส้นทางเดียวกันได้ รับรองว่าวิวสวยจนลืมเหนื่อย

2. Sellaronda Ski Marathon – ท้าทายขีดจำกัดบนเส้นทางสกีสุดโหด

📆 จัดขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปี
📍 เส้นทางรอบ Sellaronda ใน Dolomites

นี่คือ การแข่งขันสกีแบบสกีทัวร์ริ่ง (Ski Touring) ซึ่งนักสกีต้องใช้ทั้งความเร็วและความอดทนในการพิชิตเส้นทาง Sellaronda ซึ่งครอบคลุม 4 หุบเขาใหญ่ของ Dolomites

เคล็ดลับ ถึงจะไม่ใช่นักแข่ง ก็สามารถลองเล่นสกีบนเส้นทางนี้ได้ในฤดูหนาว

คำถามที่พบบ่อย

Q:เที่ยว Dolomites ช่วงไหนดี?

A:นี่คือช่วงเวลาต่างๆ ที่เราอยากจะแนะนำให้กับคุณ

หากคุณชอบเดินป่าและวิวสดใส? → ไป มิถุนายน – กันยายน
หากคุณอยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก? → ไป กันยายน – ตุลาคม
หากคุณหลงใหลในหิมะและสกี? → ไป ธันวาคม – มีนาคม
หากคุณต้องการเที่ยวแบบคนน้อยๆ และธรรมชาติสงบ? → ไป เมษายน – พฤษภาคม

Q:เที่ยว Dolomites ต้องใช้วีซ่าหรือไม่?

A:คนไทยต้องขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ก่อนเดินทาง เพราะ อิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเชงเก้น แนะนำว่าให้ยื่นวีซ่าล่วงหน้า อย่างน้อย 1-2 เดือน ก่อนเดินทาง

Q:ต้องฟิตร่างกายขนาดไหนถึงจะเดินป่าได้?

A:หากคุณต้องการจะเดินป่าที่ Dolomites ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าหลากหลาย ตั้งแต่ง่ายไปจนถึงระดับโปร ตั้งแต่ 3.5 – 10 กม. รวมไปถึงอาจจะยาวนานกว่าหลายวันหากคุณเป็นมือโปร แน่นอนว่าหากคุณเป็นมือใหม่จริงๆ เราขอแนะนำให้ลองเดินเส้นทาง Lago di Braies หรือ Alpe di Siusi ก่อนเพื่อเป็นการทดสอบ

Q:ควรเช่ารถหรือใช้ขนส่งสาธารณะ?

A:ขึ้นอยู่กับสไตล์การเดินทางของคุณเพราะทั้งสองวิธีมีข้อดีข้อเสียต่างกัน

ถ้าอยากเที่ยวแบบไม่ต้องรีบและเข้าถึงจุดที่คนทั่วไปไปไม่ถึง → เช่ารถ
ถ้าอยากเที่ยวแบบสบายๆ ไม่ต้องขับรถเอง → ใช้ขนส่งสาธารณะ