สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งมรดกโลกอันเก่าแก่ เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมที่มีการผสมผสานระหว่างสองทวีปไว้ได้อย่างลงตัว จนได้รับการขนานนามว่า ” ประเทศสองทวีป “ (ทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป)
หลายๆท่านคงเคยเห็นภาพความสวยงามของประเทศจอร์เจียกันมาบ้างแล้วและหลายๆท่านคงปักหมุดประเทศนี้ไว้ในใจ เพื่อรอเวลาเดินทางเข้าไปสัมผัสความสวยงาม วันนี้เราจึงมาบอกเล่ามุมมองเกี่ยวกับประเทศนี้ให้ท่านได้ฟัง ไปเริ่มกันเลยค่าาาา
1. ประเทศจอร์เจียเป็นประเทศในทวีปเอเชียที่คนไทยสามารถไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวี่ซ่าและสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปีต่อครั้งและค่าตั๋วอยู่ที่ประมาณ 20-25 K ถ้าเฝ้าตั๋วโปร 15 K ยังมีมาให้เห็น
2. คนจอร์เจียนิสัยหน้าจะดุๆ ไม่รับแขกคล้ายๆคนรัสเชีย แต่ใจดีนะ พูดคำไหนคำนั้น เวลานัดตรงเวลาตามสัญญาที่เราตกลงทุกอย่างแบบเป๊ะๆ ตรงประเด็น โผงผาง เราว่ามันง่ายดี แล้วถ้าเค้าหน้าบึ้งๆไม่ต้องกลัวยิ้มใส่ไปเลย ยิ้มกว้างๆให้เค้าก่อนแล้วทุกอย่างจะง่ายเอง ขนาดโดนตำรวจจราจรจับพวกเรายังยิ้มสู้เลยคุณ
3. ค่าเงินที่นี่ใช้สกุลเงินลารี อัตราแลกเปลี่ยน 1 ลารี จะมีค่าประมาณ 12-15 บาท เราไม่สามารถนำเงินไทยสกุลบาทไปแลกได้ต้องเป็นเงิน US Dollars หรือเงิน Euro แลกที่จอร์เจียแนะนำว่าแลกเงินในเมืองหลวง ทบิซิลีเรทดีีกว่า 100 US Dollars แลกได้ประมาณ 300 ลารี
4. ค่าครองชีพที่นี่ถูกมากเทียบกับประเทศไทยคือ อยู่ได้อย่างราชา เบียร์ขวดละ 2 ลิตร 60 กว่าบาท บุหรี่LMซองละ 55 บาท ค่าเมโทรตลอดสายไม่ถึง 10 บาทไวน์ที่มีชื่อเสียงตกขวดละ 150 ค่าข้าว มื้อละไม่ถึง 100 บาทแล้วแต่เราจะเลือกกินนะ
5. อาหารของประเทศจอร์เจียรสชาติเค็มมากโดยจะเน้นที่ไปที่ขนมปัง แป้งและชีส ส่วนที่เราชอบที่สุดก็คงเป็นผักและผลไม้ของที่นี่ถูกและสดมากแตงกวา และมะเขือเทศนี่คือหวานฉ่ำกินเหมือนเป็นผลไม้เลยแหละถ้าใครคิดอะไรไม่ออกแนะนำให้สั่งบาบีคิว หมู ไก่ เนื้อ อะไรก็ได้บาบีคิวที่นี่เหมือนหมูทอดอะ คุณควรพกซอสพริกหรือน้ำจิ้มไก่มาด้วยนะ รับรองเด็ดสะระตี่
6. ถ้าใครไม่ไหวเพราะเอียนกับชีสและแป้งโหยหาปลาแดกส้มตำหมูกะทะ ผมแนะนำเลยนะ ร้าน Tomyum Thai restaurant-Tbilisi ร้านอาหารไทยในเมืองหลวงทบิลิชีร้านอาหารไทยอีสานเจ้าของร้านชื่อพี่เปา ใจดีมากใครอยากสอบถามข้อมูลอะไรลองถามแกได้เลย
7. จอร์เจียเที่ยวได้ทุกฤดู ถ้าอยากเจอหิมะให้มาหน้าหนาว ธ.ค.- มี.ค, อยากเจอดอกชากุระดอกบลอสซั่มนานาพันธุ์ให้มาฤดูใบไม้ผลิช่วง เม.ย. – พ.ค, อยากเจอป่าเขียวๆ ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งให้มาช่วงต้นซัมเมอร์ มิ.ย.- ก.ค. เส้นทางเทรคกิ้งในประเทศเปิดให้เดินทุกเส้นทาง, ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีคือช่วง ส.ค – ก.ย ป่าจะสีตุ่นๆและนักท่องเที่ยวเยอะสุดทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นช่วงปลายซัมเมอร์, อยากเจอใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต.ค. – พ.ย.
8. สถานที่เที่ยวในประเทศจอร์เจียหลักคงจะเป็นธรรมชาติที่อลังการแต่ละเมืองก็จะมีมุมเด็ดๆให้ไปตามเก็บใส่เมมโมรีในหัวใจ เช่น จูตา (Juta)-กรูโช วัลเล่ย์ (Truso Valley), คาชเบกิ (Kazbegi)-เมสเทียร์ (Mestia), อสกูลิ (Ushgul) คือทุกเมืองคือดีมาก อลังการ งานภูเขาคอเคชัสถูกจริตผมโคตรๆเลยคุณ
9. เส้นทางเทรคกิ้งที่เราไปเดินมา Toba Varchkhili trekking เส้นทางเดินป่าความยากระดับ 5 ดาวของประเทศจอร์เจีย 5 คืน 6 วันระหว่างทางระคนไปด้วยเสียงอุทานไม่กี่เสียงเหนื่อยบ้าง สวยบ้าง ว๊าวว๊าวว๊าว แต่มันคุ้มค่ามากๆ อยากให้ทุกคนได้เห็น
10. วันนี้มีคนมากมายเริ่มรู้จักจอร์เจียแล้วหวังว่าการไปเยือนจอร์เจียของคุณจะมีความสุขและความทรงจำดีๆกลับมานะแต่ยังไงก็อย่าลืมจงเที่ยวไปพร้อมกับความรับผิดชอบนะคุณกฎเกณฑ์ข้อห้ามต่างๆการปฏิบัติตัวในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีความสำรวมและเคารพความเชื่อของคนในพื้นที่
ที่มาของข้อมูล: เพจนักท่องเที่ยวสัญชาติไทย