โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยความสวยงามและความอัศจรรย์ที่เหนือคำบรรยาย หลากหลายสถานที่บนโลกที่เรายังไม่เคยได้สัมผัส และยังมีอีกหลายที่ที่ยังคงรอการค้นพบความงดงามกันอยู่ หนึ่งในความงามของธรรมชาติที่ทำให้เราทึ่งไปกับความมหัศจรรย์และความสวยงามไปในคราเดียวกันคือ ปรากฏการณ์ของแสง ออโรรา ( Aurora) หรือที่เรียกกันว่าแสงเหนือหรือแสงใต้ ขึ้นอยู่กับสถานที่เกิด สำหรับ Aurora (ออโรรา) นั้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีลักษณะเป็นแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืนครับ แสงเหล่านี้นเรามักจะพบเกิดขึ้นในแถบขั้วโลก โดยแบ่งเป็น Aurora Borealis (แสงเหนือ) เกิดขึ้นบริเวณขั้วโลกเหนือ และ Aurora Australis (แสงใต้) เกิดขึ้นแถบขั้วโลกใต้ นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียก Aurora Polaris (แสงขั้วโลก) ที่ใช้เรียกทั้งแสงเหนือและแสงใต้ ซึ่งการจะได้ชมปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องไปให้ถูกที่ถูกเวลา และต้องอาศัยดวงด้วย ถึงแม้จะมีการพยากรณ์การเกิดแสงเหนือ แต่ถ้าท้องฟ้าปิด ก็ไม่ได้เห็นเช่นกัน ซึ่งประเทศที่สามารถมองเห็นแสงเหนือได้จะอยู่บริเวณใกล้กับขั้วโลกเหนือ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการเกิดแสงเหนือจะอยู่ในช่วงฤดูหนาวของทางขั้วโลก ซึ่งเป็นช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม มีนาคม และเมษายน นอกจากนี้หากได้ไปเยือนขั้วโลกในขณะที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เมฆ มีความมืดมิดสนิท มีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างปลอดมลพิษ และเป็นช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00-24.00 น. ก็จะยิ่งมีโอกาสในการเห็นแสงเหนือมากขึ้น
1. ประเทศรัสเซีย (RUSSIA)
ในทางตอนเหนือของรัสเซีย คือจุดที่คุณจะมีโอกาสที่จะได้พบกับ “แสงเหนือ” อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมือง Murmansk ใกล้ๆกับ The Kola Peninsula รัสเซียถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้เราได้พบกับแสงเหนือ นอกจากนี้ ประเทศรัสเซีย คนไทยสามารท่องเที่ยวได้ถึง 30 วันโดยที่ไม่ต้องทำหารขอวีซ่า อาจจะเป็นทริปเริ่มต้นสำหรับใครหลายๆ คนที่กำลังอยากไปชมแสงเหนือ ไม่ต้องเสียเวลาขอวีซ่า
http://www.gotogethertravel.com/รัสเซีย-แสงเหนือ-มอสโคว์/
2. ประเทศไอซ์แลนด์ (ICELAND)
ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างเกาะกรีนแลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร เป็นประเทศสุดฮอตที่นักท่องเที่ยวมักจะไปตามล่าหาแสงเหนือกัน เพราะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจสุด ๆ โดยจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะไปตั้งตารอคอยชมแสงเหนือจะอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ในไอซ์แลนด์มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ Kirkjufell Mountain เป็นภูเขารูปร่างสวยงามแปลกตา บริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม รวมทั้งน้ำตกที่มีสายน้ำไหลลงสู่มหาสมุทร ถ้าใครโชคดีได้เห็นแสงเหนือพอดิบพอดีในจุดนี้ คุณจะรู้เลยล่ะว่าโลกนี้มันสวยงามขนาดไหน
3.ประเทศนอร์เวย์ (NORWAY)
นอร์เวย์ดินแดนในเขต ขั้วโลกเหนือที่เป็นจุดหมายปลายทาง ในฝันของนักล่าแสงเหนือและนักถ่ายภาพทั่วโลก และนอร์เวย์ถือว่าเป็นประเทศที่มีสถานที่เหมาะกับการดูแสงเหนืออย่างเมือง Lofoten เป็นหมู่เกาะอยู่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ จุดเด่นของเกาะแห่งนี้นอกจากความมหัศจรรย์ของแสงเหนือแล้ว ยังมีผืนน้ำ ผืนฟ้า และภูเขาสูงสลับซับซ้อนสุดแสนสวยงาม โดยมีเมืองที่เงียบสงบอิงแอบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน และอีกหนึ่งที่ยอดนิยมคือ Tromso เมืองทางตอนเหนือของนอร์เวย์ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับการไปดูแสงสีเขียวที่น่าทึ่งแบบนี้ แถมยังมีเรือ “Hurtigruten” ที่จะปลุกเราเมื่อเกิดปรากฏการณ์”แสงเหนือ”ขึ้น
http://www.gotogethertravel.com/นอร์เวย์-โลโฟเตน-ทรอมโซ12/