โบสถ์หยดเลือด แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ซึ่งสร้างบริเวณที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ถูกลอบปลงพระชนม์ในปี คศ.1881 ส่วนสาเหตุการลอบปลงพระชนม์นั้นก็มีหลายหลายประเด่นที่เล่าต่อกันมา บ้างก็เล่าถึงว่าเพราะพระองค์ทรงได้ยกเลิกทาส ทำให้ชนชั้นขุนนางต่างพากันไม่พอใจจึงคิดการลอบปรงพระชนม์หลายครั้งจนถึงครั้งนี้ บางประวัติศาสตร์ก็เล่าว่า เพราะพระองค์พาประเทศไปร่วมรบในสงคราม ไครเมีย และพ่ายแพ้กลับมา แผนการณ์ครั้งสุดท้ายนี้ขณะเสด็จกลับจากการเยี่ยมกองทหารพระองค์ถูกกลุ่มกบฏขว้างปาระเบิดใส่รถม้าที่นั่ง ใกล้บริเวณที่ตั้งของโบสถ์นี้ พระองค์ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสด็จสวรรคตไปในที่สุด จึงทำให้เกิดโบสถ์หยดเลือด หรืออีกเรียกชื่อว่า โบสถ์แห่งการคืนชีพ
โบสถ์หยดเลือด แห่งนี้สร้างขึ้น จากเงินบริจาคของประชาชนทั่วประเทศรัสเซีย เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อศตวรรษที่ 17 ใช้เวลาก่อนสร้างยาวนานว่า 20 ปี เป็นงานศิลปะแบบรัสเซียดั้งเดิม ประดับประดาด้วยโมเสจพร้อมกับรูปภาพโมเสจขนาดใหญ่ยักษ์เป็นจุดขายของที่นี่อาจจะมีบางทรงหลุดเสียไปตามกาลเวลาเพราะในช่วงนี้โบสถ์หยดเลือดแห่งนี้ ถูกกลุ่มคนสถาปนาให้ความงดงามของมันเป็นเพียงโรงเก็บมันฝรั่งประจำเมืองใน ยุคมืดโซเวียต ก่อนจะมีการซ่อมแซมครั้งใหญ่ในช่วง 1990 และรัฐบาลก็เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อปี 1997 ให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมอันงดงามนี้ได้อย่างเต็มตา