อัพเดท 2025 เที่ยวอิหร่าน 10 สถานที่ แดนสวรรค์ของคนรักผลไม้

rovinj village during sunset adriatic sea croatia 1

เมื่อพูดถึง อิหร่าน (Iran) หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับความงดงามของประเทศนี้ แต่รู้หรือไม่ว่า อิหร่านคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทั้งธรรมชาติที่ตระการตา สถาปัตยกรรมอันวิจิตร และวัฒนธรรมที่อบอุ่นน่าประทับใจ ที่สำคัญ ยังเป็นบ้านของมรดกโลกหลายแห่งที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมเปอร์เซียในอดีต

บทความนี้จะพาคุณไปเปิดโลกใหม่กับ “อิหร่าน” แดนสวรรค์ของคนรักผลไม้ ประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและเคล็ดลับดีๆ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสนุกและน่าจดจำ

อิหร่าน ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางทัวร์ที่เราชำนาญประสบการณ์มากกว่า 17 ปี

สนใจเลือกเที่ยวอินเดียไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว

ทัวร์อิหร่าน

Line: @GoTogetherTravel   โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726

ทำไมต้องเที่ยวอิหร่าน?

อิหร่านไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี และเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยมีทั้งสถาปัตยกรรมอันงดงาม อาหารรสเลิศ และผู้คนที่เป็นมิตร

เหตุผลที่คุณควรไปเที่ยวอิหร่าน

  • มรดกโลกมากมาย อิหร่านมีมรดกโลกของ UNESCO ถึง 26 แห่ง เช่น เมืองโบราณเปอร์เซโปลิส (Persepolis) และจัตุรัสอิหม่ามในอิสฟาฮาน
  • สถาปัตยกรรมที่งดงาม มัสยิดสีชมพูในชีราซ หรือพระราชวังโกเลสตานในเตหะราน จะทำให้คุณตกหลุมรักในความละเอียดและสีสันของการออกแบบ
  • ธรรมชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่ทะเลทรายดาชท์-อี-ลุต ไปจนถึงภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
  • การต้อนรับอันอบอุ่น คนอิหร่านขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นมิตร และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก

เที่ยวอิหร่าน เดือนไหนดี?

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อากาศเย็นสบาย ดอกไม้บานสะพรั่ง
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อากาศเย็นกำลังดีและไม่ร้อนจนเกินไป
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อากาศร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่ทะเลทราย แต่เหมาะสำหรับการเที่ยวภูเขาหรือแหล่งน้ำ

เตรียมตัวก่อนเที่ยวอิหร่านต้องเตรียมอะไรบ้าง?

1. การขอวีซ่า

  • สำหรับคนไทย อิหร่านมีบริการ e-Visa ที่สามารถสมัครออนไลน์ได้ง่ายๆ
  • เอกสารที่ต้องเตรียม หนังสือเดินทาง, รูปถ่าย และข้อมูลการเดินทาง

2. การแต่งกาย

  • อิหร่านมีข้อกำหนดเรื่องการแต่งกายที่สุภาพ:
    • ผู้หญิง ควรสวมฮิญาบหรือผ้าคลุมศีรษะ และใส่เสื้อแขนยาวคลุมสะโพก
    • ผู้ชาย หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น

3. ค่าเงินและการใช้จ่าย

  • สกุลเงิน เรียลอิหร่าน (IRR)
  • แนะนำให้พกเงินสดติดตัว เพราะบัตรเครดิตระหว่างประเทศอาจใช้งานไม่ได้ในบางที่

อัพเดท 2025 10 สถานที่ท่องเที่ยวอิหร่าน

1. เมืองโบราณเปอร์เซโปลิส (Persepolis) มรดกโลกแห่งจักรวรรดิเปอร์เซีย

เปอร์เซโปลิส (Persepolis) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “นครแห่งเปอร์เซีย” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของโลก ตั้งอยู่ในประเทศอิหร่าน เมืองโบราณแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิอคีเมนิด (Achaemenid Empire) ที่รุ่งเรืองที่สุดในยุคโบราณ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1979

หากคุณหลงใหลในประวัติศาสตร์และโบราณคดี หรือมองหาประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในโลกยุคโบราณ เปอร์เซโปลิส คือต้องห้ามพลาด! มาทำความรู้จักเมืองโบราณแห่งนี้ให้มากขึ้น พร้อมคำแนะนำในการเดินทางที่จะทำให้ทริปของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

3 เหตุผลทำไมเปอร์เซโปลิสถึงเป็นจุดหมายที่ต้องไป?

  • มรดกโลกที่เปี่ยมด้วยความงดงาม สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และความละเอียดอ่อนในงานศิลปะ ทำให้เปอร์เซโปลิสเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครเหมือน
  • ประสบการณ์ที่เหนือกาลเวลา คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของจักรวรรดิที่เคยรุ่งเรือง และได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเปอร์เซียโบราณ
  • สถานที่ถ่ายภาพอันงดงาม ทุกมุมของเปอร์เซโปลิสเต็มไปด้วยรายละเอียดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก

2. จัตุรัสอิหม่าม (Naqsh-e Jahan Square) หัวใจแห่งอิสฟาฮาน

จัตุรัสอิหม่าม (Naqsh-e Jahan Square) หรือที่รู้จักในชื่อ “จัตุรัสอิหม่ามโคมัยนี” ตั้งอยู่ในเมือง อิสฟาฮาน (Isfahan) ประเทศอิหร่าน เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดและงดงามที่สุดในโลก สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าอับบาสที่ 1 แห่งราชวงศ์ซาฟาวิด ซึ่งใช้เป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตทางการเมือง วัฒนธรรม และศาสนา

จัตุรัสนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในปี 1979 ด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างความงามของอดีตและเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมท้องถิ่น

ไฮไลต์สิ่งที่น่าสนใจรอบจัตุรัสอิหม่าม

  1. มัสยิดอิหม่าม (Imam Mosque) สัญลักษณ์แห่งความศรัทธา ห้องสวดมนต์ที่สะท้อนเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ และภาพศิลปะแบบเปอร์เซียที่งดงาม
  2. พระราชวังอาลีคาปู (Ali Qapu Palace) สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ระเบียงที่มองเห็นวิวของจัตุรัสและห้องดนตรีที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน
  3. มัสยิดเชคห์ลอฟุลลอฮ์ (Sheikh Lotfollah Mosque) มัสยิดส่วนตัวของราชวงศ์ การออกแบบที่ใช้แสงธรรมชาติสร้างความงดงามในตัวอาคาร
  4. ตลาด Grand Bazaar ตลาดที่ทอดยาวรอบจัตุรัส เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่น เช่น พรมเปอร์เซีย งานเซรามิก และงานฝีมือที่ประณีต อย่าลืมลองชิมขนมท้องถิ่น เช่น กาซ (Gaz) หรือขนมตังเมอิหร่านด้วยละ

3. มัสยิดสีชมพู (Nasir al-Mulk Mosque) ความงดงามที่สะกดทุกสายตา

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงความงามของสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าในประเทศอิหร่าน “มัสยิดสีชมพู (Nasir al-Mulk Mosque)” ในเมืองชีราซ (Shiraz) ต้องอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ ที่นักเดินทางไม่ควรพลาด มัสยิดแห่งนี้ไม่เพียงโด่งดังจากความสวยงามของกระจกหลากสีที่สร้างแสงเงาอันน่าทึ่ง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามในงานศิลปะเปอร์เซียที่คงอยู่มากว่าศตวรรษ

มาดูกันว่าอะไรทำให้มัสยิดสีชมพูแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม และคุณควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อสัมผัสมนต์เสน่ห์ของมัน

3 เหตุผลทำไมมัสยิดสีชมพูถึงต้องไป

  • สวรรค์ของคนรักศิลปะ มัสยิดนี้เต็มไปด้วยองค์ประกอบศิลปะที่สะท้อนความงดงามของงานฝีมือแบบเปอร์เซีย
  • สถานที่ถ่ายภาพระดับโลก แสงสีที่เกิดจากกระจกในมัสยิดสร้างภาพถ่ายที่สวยงามและไม่เหมือนใคร
  • ความเงียบสงบที่สัมผัสได้ บรรยากาศภายในมัสยิดเหมาะสำหรับการผ่อนคลายและสัมผัสความสงบ

4. พระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace) มรดกโลกแห่งความงามและประวัติศาสตร์

พระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เป็นหนึ่งในพระราชวังที่เก่าแก่และงดงามที่สุดในอิหร่าน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะเปอร์เซียและยุโรปอย่างลงตัว พร้อมทั้งประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ยุคราชวงศ์กาเจอร์ (Qajar) พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 2013 และกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ของอิหร่าน

หากคุณหลงใหลในประวัติศาสตร์และงานศิลปะ พระราชวังโกเลสตานจะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับความงดงามในทุกมุม

ไฮไลต์สิ่งที่น่าสนใจในพระราชวังโกเลสตาน

  1. โถงกระจก (Hall of Mirrors) หนึ่งในไฮไลต์ที่งดงามที่สุดของพระราชวัง ตกแต่งด้วยกระจกเงาหลายพันชิ้นที่สะท้อนแสงและสร้างบรรยากาศสุดอลังการ
  2. โถงเพชร (Talar-e Almas) ชมการตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบที่แวววาวราวกับเพชร พร้อมภาพวาดฝาผนังที่สะท้อนถึงศิลปะแบบเปอร์เซีย
  3. ห้องแสดงพิพิธภัณฑ์ (Ethnological Museum) พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุและสมบัติของราชวงศ์ รวมถึงพรมเปอร์เซียสุดหรู
  4. สวนโกเลสตาน (Golestan Garden) สวนที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต เต็มไปด้วยต้นไม้และน้ำพุที่สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
  5. หอคอยลม (Badgir Building) อาคารที่มีระบบระบายอากาศโบราณที่เรียกว่า “Badgir” ซึ่งเป็นตัวอย่างของภูมิปัญญาด้านสถาปัตยกรรมท้องถิ่น

5. ทะเลทรายดาชท์-อี-ลุต (Dasht-e Lut) ดินแดนแห่งความร้อนระอุและความงดงามที่ไร้ขอบเขต

ทะเลทรายดาชท์-อี-ลุต (Dasht-e Lut) ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอิหร่าน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในปี 2016 ทะเลทรายแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่รกร้างกว้างใหญ่ แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ร้อนที่สุดในโลกด้วยอุณหภูมิพื้นผิวที่เคยถูกบันทึกไว้สูงสุดถึง 70.7°C

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความงดงามของธรรมชาติที่แปลกตา ทะเลทรายดาชท์-อี-ลุต คือจุดหมายปลายทางที่คุณควรมีในลิสต์ จุดเด่นของดาชท์-อี-ลุต ทะเลทรายแห่งนี้เคยได้รับการบันทึกว่าเป็นสถานที่ที่ ร้อนที่สุดในโลก ในปี 2005, 2006, 2007, 2009 และ 2011 แม้จะดูแห้งแล้ง แต่พื้นที่บางส่วนของทะเลทรายกลับเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ และพืชพรรณที่ปรับตัวได้

3 เหตุผลทำไมคุณควรไปเยือนทะเลทรายดาชท์-อี-ลุต?

  • ความงดงามที่ไม่เหมือนใคร ดาชท์-อี-ลุตเต็มไปด้วยภูมิทัศน์ที่แปลกตาและน่าทึ่ง เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น
  • เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ทะเลทรายแห่งนี้มีจุดถ่ายภาพที่สวยงามและหลากหลาย
  • สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง คุณจะได้สัมผัสถึงความเงียบสงบและความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ

6. เมืองยาซด์ (Yazd) ดินแดนแห่งทะเลทรายและสถาปัตยกรรมดั้งเดิม

ยาซด์ (Yazd) เมืองทะเลทรายเก่าแก่ของอิหร่านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 2017 มีชื่อเสียงในฐานะเมืองที่มีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและระบบนิเวศน์ที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทะเลทรายอย่างลงตัว ยาซด์เปรียบเสมือน โอเอซิสกลางทะเลทราย ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ผสมผสานความสงบ ความสวยงาม และเสน่ห์ของวิถีชีวิตดั้งเดิม ยาซด์ คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด

3 เหตุผลทำไมคุณควรไปเยือนเมืองยาซด์?

  • สัมผัสเมืองทะเลทรายที่มีเสน่ห์ ยาซด์เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทะเลทราย
  • เรียนรู้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ จากวิหารแห่งไฟไปจนถึงหอคอยแห่งความเงียบ ทุกสถานที่ในยาซด์เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ
  • ความงดงามแบบเรียบง่าย สถาปัตยกรรมที่ไม่หวือหวาแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม

7. สะพานเซียวเซะโปล (Si-o-Se Pol) สะพานแห่งวัฒนธรรมและความโรแมนติกในอิสฟาฮาน

สะพานเซียวเซะโปล (Si-o-Se Pol) หรือที่แปลว่า “สะพาน 33 โค้ง” เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเมือง อิสฟาฮาน (Isfahan) ประเทศอิหร่าน สะพานแห่งนี้ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยความงามของสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ยังเป็นจุดรวมของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวเมือง

สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 ในยุคราชวงศ์ซาฟาวิด (Safavid Dynasty) สะพานเซียวเซะโปลทอดยาวเหนือแม่น้ำ Zayandeh และถือเป็นหนึ่งในสะพานที่มีชื่อเสียงและงดงามที่สุดในอิหร่าน

3 เหตุผลทำไมสะพานเซียวเซะโปลถึงเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณต้องไป?

  1. สัญลักษณ์ของอิสฟาฮาน สะพานนี้ถือเป็นจุดศูนย์กลางของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในเมือง
  2. ความงดงามของสถาปัตยกรรม การออกแบบที่ละเอียดอ่อนและวิธีการสร้างที่แสดงถึงความชาญฉลาดของสถาปนิกในยุคนั้น
  3. จุดถ่ายภาพที่น่าประทับใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักถ่ายภาพมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ สะพานนี้คือสถานที่ที่คุณจะได้ภาพถ่ายที่สวยงาม

8. สวนเออร์แอม (Eram Garden) มรดกโลกแห่งความงดงามใจกลางชีราซ

สวนเออร์แอม (Eram Garden) หรือที่ชาวอิหร่านเรียกว่า “Bagh-e Eram” เป็นหนึ่งในสวนเปอร์เซียที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศอิหร่าน ตั้งอยู่ในเมือง ชีราซ (Shiraz) สวนแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่พักผ่อนที่เงียบสงบ แต่ยังเป็นตัวแทนของศิลปะและภูมิปัญญาในการออกแบบสวนของชาวเปอร์เซียที่สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างธรรมชาติและสถาปัตยกรรม

ด้วยความงดงามของดอกไม้ ต้นไม้ และสถาปัตยกรรมที่วิจิตร สวนเออร์แอม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในฐานะส่วนหนึ่งของ “สวนเปอร์เซีย” ในปี 2011

3 เหตุผลทำไมคุณควรไปเยือนสวนเออร์แอม?

  1. ตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของสวนเปอร์เซีย สวนเออร์แอมสะท้อนถึงภูมิปัญญาและศิลปะของชาวเปอร์เซียที่ผสมผสานธรรมชาติและสถาปัตยกรรมอย่างลงตัว
  2. สถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบ สำหรับผู้ที่ต้องการหนีความวุ่นวาย สวนแห่งนี้คือโอเอซิสแห่งความสงบ
  3. โอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมเปอร์เซีย การเยี่ยมชมสวนเออร์แอมจะทำให้คุณเข้าใจถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมของอิหร่าน

9. หมู่บ้านอับยาเนห์ (Abyaneh) หมู่บ้านสีแดงแห่งประวัติศาสตร์ในอิหร่าน

หมู่บ้านอับยาเนห์ (Abyaneh) ตั้งอยู่บนเชิงเขา Karkas ในจังหวัดอิสฟาฮาน (Isfahan) ประเทศอิหร่าน เป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยบ้านเรือนสีแดงที่สร้างจากดินเหนียวและไม้ ซึ่งสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมโบราณที่ยังคงสภาพไว้อย่างสมบูรณ์

หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังเป็นหน้าต่างที่เปิดสู่วิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเปอร์เซียที่มีอายุหลายร้อยปี หากคุณกำลังมองหาสถานที่เงียบสงบที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ หมู่บ้านอับยาเนห์ จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม

3 เหตุผลทำไมคุณควรไปเยือนหมู่บ้านอับยาเนห์?

  1. สัมผัสวัฒนธรรมโบราณ หมู่บ้านแห่งนี้เหมือนกับพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
  2. ความงดงามของธรรมชาติ ทิวทัศน์ของภูเขาและบ้านเรือนสีแดงสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
  3. โอกาสเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น พบกับชาวบ้านที่ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิม

10. หอคอยมิลาเด (Milad Tower) สัญลักษณ์แห่งความทันสมัยใจกลางเตหะราน

หอคอยมิลาเด (Milad Tower) ตั้งตระหง่านเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ด้วยความสูงถึง 435 เมตร หอคอยแห่งนี้ไม่เพียงเป็นหนึ่งในหอคอยที่สูงที่สุดในโลก แต่ยังเป็นศูนย์กลางที่เต็มไปด้วยกิจกรรมบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวเตหะรานและอยากสัมผัสประสบการณ์ที่รวมเอาความงดงามของวิวเมือง ความทันสมัย และกิจกรรมที่หลากหลาย หอคอยมิลาเด คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด

3 เหตุผลทำไมคุณควรไปเยือนหอคอยมิลาเด?

  1. วิวที่ดีที่สุดของกรุงเตหะราน จุดชมวิวที่ทำให้คุณได้เห็นเมืองจากมุมสูงพร้อมทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ
  2. ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ร้านอาหารหมุนได้ให้บรรยากาศที่แปลกใหม่และโรแมนติก
  3. สถานที่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรม หอคอยมิลาเดมีครบทั้งความบันเทิง ศิลปะ และสิ่งอำนวยความสะดวก

 

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า
อิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกผลไม้และถั่ว
มากเป็นอันดับต้นๆของโลก !!!
นำรายได้เข้าประเทศกว่าปีล่ะ หลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ส่งออกมากกว่าปีล่ะ 125,000 ตัน หรือประมาณ 125ล้านกิโลกรัม โดยในปี 2021 พบว่ากว่า 50% ของส่งออกนั้นไปยังประเทศรัสเซีย นอกจากนั้นปลายประเทศอย่าง อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ยูเครนก็นำเข้าผลไม้จากอิหร่านด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิ้ล, เชอรรี่, กีวี่, แตงโม, พีช, ลูกเกด, พลัม, อินทพลัม, องุ่น, แอปริคอต รวมไปถึงถั่วต่างๆโดยเฉพาะ พิสตาชิโอ, อัลมอนด์, วอลนัท, แมคคาเดเมีย และถั่วหากินยากๆมากมาย ซึ่งจะให้ผลผลิตมากในช่วงพฤษภาคม-กันยายน หรือตรงกับช่วงหน้าร้อนของอิหร่าน  นอกจากนั้นผลไม้อบแห้ง หรือถั่วก็ราคาน่ารักเหมาะกับการเป็นของฝากหรือกินเล่นแบบสบายกระเป๋า เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักผลไม้ที่แท้จริง

สนใจเลือกเที่ยวอินเดียไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว

ทัวร์อิหร่าน

ช่องทางติดต่อได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 -17.00 น.

Line: @GoTogetherTravel

โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726

#gotogethertravel #iran #ทัวร์อิหร่าน #รับทำวีซ่าอิหร่าน
#อิหร่าน #วีซ่าอิหร่าน #เที่ยวอิหร่าน
Our Best Partners: jogos do touro suomalaiset pikakasinot pg soft demo tiger pay and play casino uudet nettikasinot malta https://slot-pgsoft.com/review/fairspin-casino/ mines game lucky jet signals tg siirto casino demonstração do jogo do tigre

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *