เที่ยวอิรัก กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดตระการตาที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณ

เที่ยวอิรัก กับ 11 สถานที่ท่องเที่ยวสุดตระการตาที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณ

 แม้ว่าอิรักจะเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลีกเลี่ยงการมาเยือน เนื่องจากข่าวความรุนแรงต่างๆ แต่ในปัจจุบันสถานการณ์ความรุนแรงได้คลี่คลายลงมาก หากคุณหลงใหลในเรื่องราวของโลกยุคโบราณ อิรักคือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด เพราะที่นี่คือแหล่งกำเนิดของอารยธรรมอันเก่าแก่เมโสโปเตเมีย หรือดินแดนระหว่างสองแม่น้ำไทกริสและยูเฟรตีส ที่เต็มไปด้วยซากโบราณ เมืองประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมมากมาย มาทำความรู้จักแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไปพร้อมกับ gotogethertravel กัน จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปออนทัวร์พร้อมกันเลย!

สนใจเลือกเที่ยวประเทศอิรักไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว

ทัวร์อิรัก

Line: @GoTogetherTravel   โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726

Wadi Al-Salam Cemetery in Najaf

1.สุสานวาดีอัล-ซาลาม แห่งนาจาฟ (Wadi Al-Salam Cemetery in Najaf)

สุสานแห่งเมืองนาจาฟมีอายุกว่า 1,400 ปี ถือเป็นหนึ่งในสุสานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 917 เฮกตาร์ หรือราว 13% ของพื้นที่เมือง เป็นที่ฝังศพของชาวมุสลิมหลายล้านคน รวมถึงกษัตริย์ ผู้นำราชวงศ์ และผู้เสียชีวิตจากสงครามสำคัญต่างๆ เช่น สงครามอิรัก-อิหร่าน สงครามอ่าวเปอร์เซีย และสงครามอิรัก รูปแบบการฝังศพในสุสานนี้มีหลากหลาย ทั้งหลุมธรรมดา หลุมใต้ดินแบบห้อง และหอคอยสุสาน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก

The Ahwar of Southern Iraq

2.อะห์วาร์แห่งอิรักตอนใต้ (The Ahwar of Southern Iraq)

อะห์วาร์แห่งอิรักตอนใต้ สร้างขึ้นราว 4,000-3,000ปี ก่อนคริสตกาล และเป็นดินดอนสามเหลี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในพื้นที่หนองบึงอาวาร์ถือเป็นที่อยู่อาศัยสำคัญของสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์และสายพันธุ์เฉพาะถิ่นเช่น เช่น นกกระสาหินอ่อน นากขนเรียบ และเต่ากระดองอ่อนยูเฟรตีส์ เป็นต้น และยังเป็นพื้นที่ที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเมืองในยุคเมโสโปเตเมีย(เมืองยุคแรกในโลก)  ปัจจุบันพื้นที่นี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกในฐานะที่เป็นแหล่งความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 2016
Hanging Gardens of Babylon

3.สวนลอยฟ้าแห่งบาบิโลน (Hanging Gardens of Babylon)

สวนลอยฟ้าแห่งบาบิโลนเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก แต่ต่อมาได้ถูกทำลายเนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนเหลือแต่เพียงซากเท่านั้น ความเป็นมาของสวนลอยแห่งบาบิลอนถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 8-6 ก่อนคริสตศักราช และเชื่อว่าเป็นผลงานของ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อปลอบประโลมพระมเหสี อามีติส ผู้โหยหาภูมิประเทศภูเขาและต้นไม้เขียวชอุ่มในบ้านเกิด ปัจจุบันสวนลอยฟ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2019
Erbil Citadel

4.เนินปราสาทเออร์บิล (Erbil Citadel)

เนินปราสาทเออร์บิล ตั้งอยู่ในเขตเคิร์ดดิสถาน เชื่อกันว่าเนินปราสาทนี้สร้างขึ้นเมื่อ 8,000 ปีก่อน มีลักษณะเฉพาะคือรูปแบบเมืองสมัยออตโตมันและรูปแบบถนนที่อยู่บนเนิน เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและมีการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า ปัจจุบันสวนลอยฟ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2014
Imam Ali Mosque

5.มัสยิดอิมามอะลี (Imam Ali Mosque)

มัสยิดอิมามอะลีเป็นเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 977 เหนือหลุมฝังศพของอาลี ลูกพี่ลูกน้องของศาสดาโมฮัมหมัด ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ถือว่ามัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยผู้นำสารของพระอัลเลาะห์ อะลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ ซึ่งเป็นลูกเขยของศาสดามุฮัมมัด ได้ถูกฝังอยู่ที่นี่
Great Mosque of Samarra

6.มหามัสยิดแห่งเมืองซามาร์รา (Great Mosque of Samarra)

มหามัสยิดแห่งเมืองซามาร์รา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไทกริส ทางเหนือของแบกแดด เป็นหลักฐานสำคัญของอารยธรรมอิสลามยุคนั้น โดดเด่นด้วยผังเมือง มัสยิดขนาดใหญ่ เช่น อัลมาลวียา หออะซานแบบเกลียว พระราชวัง และงานศิลปะตกแต่งที่แพร่กระจายไปทั่วโลกอิสลาม ปัจจุบันมหามัสยิดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2007
Hatra

7.ฮาตรา (Hatra)

เมืองฮาตราเป็นเมืองป้อมปราการขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใน อัล-จาซีร่า (Al-Jazira) มีความสำคัญทางศาสนา การทหาร และการค้าในยุคพาร์เธียน มีการออกแบบที่โดดเด่นลักษณะการออกแบบเป็นวงกลม มีกำแพงสองชั้น ป้อมปราการแข็งแกร่ง และสถาปัตยกรรมอื่นๆ ของเมืองแสดงอิทธิพลจากอารยธรรมอัสซีเรีย-บาบิโลน กรีก พาร์เธียน และโรมัน และภายในเมืองนี้ยังพบหลักฐานทางโบราณคดี เช่น รูปปั้นและจารึกจำนวนมาก ปัจจุบันเมืองป้อมปราการแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1985

Al-Shaheed Monument

8.อนุสรณ์สถานอัล-ชาฮีด (Al-Shaheed Monument)

อนุสรณ์สถานอัล-ชาฮีดในกรุงแบกแดด หรือในอีกชื่อหนึ่งว่าอนุสรณ์สถานวีรชน (Martyr’s Memorial) สร้างขึ้นในปี 1978 ภายใต้คำสั่งของซัดดัม ฮุสเซน สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารอิรักที่เสียชีวิตในสงครามอิรัก-อิหร่าน และในวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี ชาวอิรักจะรำลึกถึงสงครามครั้งนั้นโดยติดเครื่องหมายที่มีข้อความอัล-ชาฮีดและดอกไม้สีแดงอยู่ตรงกลาง

Ziggurat of Ur

9.ซิกกูรัตแห่งเออร์ (Ziggurat of Ur)

ซิกกูรัตแห่งเออร์ เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ อูร์-นัมมู (Ur-Nammu) เมื่อ 4,000 ปีที่แล้ว สร้างขึ้นโดยชาวสุเมเรียนบาบิลอนและอัสซีเรีย ในดินแดเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) องค์กรยูเนสโกได้รวมซิกกูรัตแห่งเออร์ เป็นส่วนหนึ่งของอะห์วาร์แห่งอิรักตอนใต้ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
National Museum of Iraq

10.พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอิรัก (National Museum of Iraq)

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอิรักเป็นสถานที่รวบรวมโบราณวัตถุที่สำคัญตั้งแต่อารยธรรมเมโสโปเตเมียพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2015 พร้อมกับโบราณวัตถุกว่า 6,000 ชิ้น เช่น เครื่องปั้นดินเผา โลหะ งาช้าง และกระดาษ  เป็นต้น บางชิ้นมีอายุกว่า 7,000 ปี วัตถุโบราณเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานในยุคแรกๆ จนถึงการรุ่งเรืองและการล่มสลายของอาณาจักรอันกว้างใหญ่

 

สนใจเลือกเที่ยวประเทศอิรักไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว

ทัวร์อิรัก

Line: @GoTogetherTravel   โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726