เที่ยวคาซัคสถาน ดินแดนแห่งธรรมชาติและสถาปัตยกรรม

คาซัคสถาน เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความน่าสนใจในเรื่องของการท่องเที่ยว แต่น่าจะมีหลายคนกล้าๆ กลัวๆ ว่าสามารถเที่ยวได้ปลอดภัยหรือไม่ จะมีการรบกันหรือระเบิดหรือเปล่า? แต่โก ทูเกเธอร์ แทรเวล ขอบอกเลยว่าคาซัคสถานเป็นประเทศที่เที่ยวได้และน่าไปเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ในอดีตคาซัคสถานเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตมาก่อน โดยมีพรมแดนติดกับรัสเซีย จีน คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน ถึงแม้ประเทศนี้จะมีพื้นที่กว้างใหญ่แต่น้อยคนนักจะรู้จัก และการเดินทางภายในเมืองก็สะดวกสบาย มีรถสาธารณะอย่างรถเมล์ รถไฟใต้ดิน และแท็กซี่ให้เราใช้ได้ อีกทั้งบรรยากาศยังดี มีความปลอดภัย มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถาปัตยกรรมที่น่าสนใจมากมาย นับเป็นจุดเช็กอินที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว

และยิ่งดีขึ้นไปอีกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะทางรัฐบาลคาซัคสถานได้ประกาศยกเลิกการตรวจลงตราวีซ่านักท่องเที่ยวไทยไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562

1.อัลมาตี (Almaty)

อัลมาตีเป็นเมืองหลวงเดิมของคาซัคสถานที่ได้รับฉายาว่ามอสโคว์แห่งเอเชียกลาง เพราะเป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคม การติดต่อสื่อสาร การศึกษา ฯลฯ เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบรัสเซีย เพราะมีอาคารบ้านเรือน สวนสาธารณะ อนุสาวรีย์ ฯลฯ ที่ถูกสร้างตามแบบรัสเซียดังเดิมให้เราได้ชม อาทิ

• อนุสาวรีย์แห่งอิสรภาพ (Monument of Independence) อนุสาวรีย์เสาหินที่ด้านบนเป็นรูปปั้นมนุษย์ทองคำ (Golden Man) ขี่หลังเสือดำติดปีกที่ชาวคาซัคสถานมีความถือว่ามนุษย์ทองคำคือบรรพบุรุษของชาวคาซัคสถาน

• สวนสาธารณะแพนฟิลอฟ (Panfilov Park) สวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวคาซัคสถานที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรบุรุษชาวคาซัคสถานที่ช่วยโซเวียตรบกับนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2

• พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีพื้นเมือง (Museum of Musical Instruments) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะแพนฟิลอฟที่จัดแสดงเครื่องดนตรีพื้นเมืองของคาซัคสถานตั้งแต่ศตวรรษที่ 17

• โบถส์คริสต์เซนคอฟ (Zenkov Cathedral) โบสถ์ที่สร้างขึ้นด้วยไม้และไม่ใช้ตะปูในการยึดโครงก่อสร้างใดๆ อีกทั้งเป็นโบสถ์ไม้ที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย

• มหาวิทยาลัย Kazakh-British University มหาวิทยาลัยสำคัญของคาซัคสถานซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นรัฐสภามาก่อนจะย้ายเมืองหลวงไปที่อัสตานา เป็นต้น

2.ทะเลสาบอัลมาตี (Big Almaty Lake)

ทะเลสาบอัลมาตีตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Ile-Alatau โอบล้อมด้วยภูเขาสูง เป็นทะเลสาบที่สวยงามมากจนกลายเนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอัลมาตีและประเทศคาซัคสถาน น้ำในทะเลสาบแต่ละวันก็จะมีสีแตกต่างกันออกไป ทั้งสีเขียวมรกต สีฟ้าอ่อน สีฟ้าเทอร์ควอยส์ ดังนั้นสามารถมาเที่ยวที่ทะเลสาบอัลมาตีได้ตลอดทั้งปี แต่มีข้อความระวังก็คือห้ามสัมผัสกับน้ำในทะเลสาบเด็ดขาดเพราะว่าน้ำในทะเลสาบนี้จะไหลเข้าสู่เมืองอัลมาตีให้ชาวบ้านได้ใช้กัน หากมาเที่ยวที่ทะเลสาบอัลมาตีแนะนำว่าให้ซื้อทัวร์หรือจ้างรถพร้อมคนขับพามา เพราะการเดินทางค่อนข้างลำบากพอสมควร แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อมาเห็นความสวยงามของทะเลสาบอัลมาตีแล้วจะลืมเรื่องความลำบากในการเดินทางไปเลย

3.เนินทรายร้องเพลง (Singing Dunes)

เนินทรายร้องเพลงแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอัลทีลอิมัล (Altyn Emel National Park) เมืองอัลมาตี เป็นภูเขาทรายสูงประมาณ 120 เมตร ยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ด้วยความสวยงามและกว้างใหญ่ของทะเลทรายแห่งนี้จึงทำให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาซัคสถานที่ไม่ควรพลาด สาเหตุที่ได้ชื่อว่าเนินทรายร้องเพลงก็เพราะว่ายามที่ลมพัดผ่านเราจะได้ยินเสียงลมพัดทะเลทรายคล้ายกับเสียงเพลง ซึ่งเสียงลมที่กระทบกับทะเลทรายดังมากถึง 105 เดซิเบลเลยทีเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวคาซัคสถานที่สวยงามและน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง น่าจัดเสื้อผ้าสวยๆ ไปถ่ายรูปให้ดูเป็นเจ้าหญิงและเจ้าทรายอาหรับเป็นอย่างมาก

4.อัสตานา (Astana)

อัสตานาเป็นเมืองหลวงของประเทศคาซัคสถาน ที่ถูกสถาปนาขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1997 แทนเมืองอัลมาตี ดังนั้นเราจะได้เห็นสถาปัตยกรรมภายในเมืองอัสตานาที่ทันสมัยและอลังการ ผสมผสานคาซัคสถานในอดีตและความทันสมัย เข้ากันได้อย่างลงตัว สวยงามและน่าสนใจไม่แพ้อัลมาตีเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น

• หอคอยไบเทเร็ก (Bayterek Tower) หอคอยที่เปรียบเสมือนสัญลักษณืประจำเมืองอัสตานา มีความสูง 97 เมตร โดยเลข 97 แทนปี ค.ศ.1997 ซึ่งเป็นปีสถาปนาอัสตานาเป็นเมืองหลวงนั่นเอง ด้านบนหอคอยถูกสร้างเป็นทรงกลมสีทอง เปรียบเสมือนเป็นไข่ทองคำที่ชาวคาซัคสถานเชื่อว่า นกซัมรุก (Samruk) ซึ่งเป็นนกวิเศษได้วางไข่ทองคำและบรรจุความลับของมนุษย์เอาไว้ โดยจะไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถขึ้นไปถึงได้ แต่เพื่อนๆ สามารถขึ้นไปที่หอคอยไบเทเร็กเพื่อชมวิวมุมสูงสวยๆ ของอัสตานาได้นั่นเอง

• ทำเนียบประธานาธิบดี (Ak Orda Presidential Palace) อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่สำคัญของอัสตานาก็คือทำเนียบประธานาธิบดี โดดเด่นด้วยโดมสีฟ้า ด้านหลังติดแม่น้ำอิสซิม (Ishim River) ถูกขนาบข้างด้วยอาคารสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

• โรงละครแห่งกรุงอัสตานา (Central Concert Hall Astana) เป็นโรงละครสุดทันสมัยที่ออกแบบโดย Manfredi Nicoletti ภายใต้แนวคิด “Flower of the Steppe” ซึ่งเราจะเห็นอาคารเป็นกลีบดอกไม้บานท่ามกลางสนามอันกว้างใหญ่ ภายในมีทั้งโรงภาพยนตร์ โรงละคร สถานที่จัดคอนเสิร์ต ร้านอาหาร ฯลฯ

5.มัสยิดสุลตานฮัซเรต (Hazrat Sultan Mosque)

มัสยิดสุลตานฮัซเรตเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในคาซัคสถานและใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียกลาง ด้วยความสูงของยอดโดมถึง 51 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 28.1 เมตร อีกทั้งมีโดมขนาดเล็ก 8 โดมล้อมรอบ ตกแต่งด้วยหินอ่อนและประดับลวดลายตามจุดต่างๆ แบบฉบับคาซัคสถาน ภายในมีห้องประกอบพิธีทางศาสนาหลายห้องถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาอิสลามที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้

6.ห้างสรรพสินค้าข่าน ชาเทียร์ (Khan Shatyr Entertainment Center)

ห้างสรรพสินค้าข่าน ชาเทียร์เป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในอัสตานาและประเทศคาซัคสถาน ด้วยดีไซน์สุดโดดเด่นของอาคารที่เหมือนเต็นท์ของท่านข่าน บรรพบุรุษของชาวคาซัคสถานในยุคโบราณ จึงทำให้ใครต่อใครก็ต้องแวะมาเที่ยวและชมความสวยงามของที่นี่ด้วยตาของตัวเอง ภายในห้างแห่งนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และไฮไลท์เด็ดก็คือชายหาดเทียมที่ตั้งอยู่ภายในห้างแห่งนี้ เพื่อให้ชาวคาซัคสถานได้สัมผัสกับท้องทะเลและชายหาด เนื่องจากคาซัคสถานเป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ติดกับทะเลนั่นเอง