หากพูดถึงประเทศในแถบเอเชียกลาง หลายคนอาจยังไม่คุ้นหูกับชื่อ “คีร์กีซสถาน” ประเทศเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์และวิถีชีวิตดั้งเดิม จนได้รับฉายาว่าเป็น “ดินแดนแห่งภูเขาน้ำแข็ง” ด้วยภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงตระหง่านปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี ที่นี่จึงกลายเป็นจุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและการผจญภัยจากทั่วโลก
บทความนี้ go together travel จะพาคุณไปรู้จักกับประเทศคีร์กีซสถานให้มากขึ้น ทั้งประวัติคร่าว ๆ สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ เมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงการเดินทางจากประเทศไทยและการเดินทางภายในประเทศ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปกันเลย
1. มาทำความรู้จักประเทศคีร์กีซสถาน
ชื่อเต็ม
ประเทศคีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan) หรือมีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐคีร์กีซสถาน
พื้นที่และที่ตั้ง
ประเทศคีร์กีซสถาน มีพื้นที่ทั้งหมด 199,951 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในเอเชียกลาง ทางทิศตะวันตกของจีนและทิศใต้ของคาซัคสถาน ระหว่างเทือกเขาเทียนชานและปาเมียร์
สกุลเงิน
ประเทศคีร์กีซสถาน ใช้ซอมคีร์กีซสถาน(KGS) สกุลเงินดังกล่าวมีสกุลเงินตั้งแต่ 1 ตันถึง 5,000 ซอม
2. ประวัติศาสตร์ของประเทศคีร์กีซสถาน
- ประเทศคีร์กีซสถานมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ตั้งแต่ยุคภาพเขียนสลักโบราณและกลุ่มชนเร่ร่อนดั้งเดิม ไปจนถึงการเป็นจุดสำคัญบนเส้นทางสายไหมที่เชื่อมระหว่างจีน เปอร์เซีย และยุโรป ชาวคีร์กีซมีรากฐานจากแม่น้ำเยนีเซย์ในไซบีเรีย ก่อนจะอพยพมาตั้งรกรากในเทือกเขาเทียนซานและตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรวรรดิต่าง ๆ เช่น มองโกล จีน และรัสเซีย
- ในยุคจักรวรรดิรัสเซีย คีร์กีซสถานกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคม ก่อนจะเข้าสู่ยุคสหภาพโซเวียตในปี 1936 และในที่สุดได้ประกาศเอกราชเป็นประเทศคีร์กีซสถานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1991
3. สภาพภูมิประเทศ
ประเทศคีร์กีซสถาน ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเทียนชานที่แยกตัวออกมาจากเทือกเขาปามีร์ และมีทะเลสาบอีสซิค คูล อยู่ระหว่างสันเขาสูงบริเวณตอนกลางของประเทศ ไม่มีทางออกทางสู่ทะเล มีอาณาเขตทางทิศเหนือติดกับคาซัคสถาน ทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ติดกับจีน ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับทาจิกิสถาน และทิศตะวันตกติดกับอุซเบกิสถาน
4. สภาพภูมิอากาศ
ประเทศคีร์กีซสถาน สภาพภูมิอากาศเป็นแบบทวีป และแตกต่างกันไปตามระดับความสูง ฤดูหนาวจะหนาวเย็นและมักจะหนาวจัด ส่วนฤดูร้อนจะอบอุ่นและมีแดด หากว่าอยากมาเที่ยวที่นี่แนะนำว่าให้มาช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม จะตรงกับช่วงไฮซีซั่น (High season)ของที่นี่พอดี ถือว่าเป็นช่วงฤดูร้อนที่อากาศแจ่มใส ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป และประเทศคีร์กีซสถานเขาจะเปิดถนนหนทางแทบทุกสายที่ทำให้สามารถเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวบนเส้นทางที่เป็นภูเขาที่เข้าถึงได้ยากในฤดูอื่น อีกด้วย หรืออีกช่วงที่พอจะมาท่องเที่ยวได้ก็คือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ที่อากาศกำลังเริ่มหนาวเย็น แต่ยังไม่หนาวจัดจนเกินไป
5. เมืองสำคัญและแหล่องท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
เมืองสำคัญ
เมืองหลวงของประเทศคีร์กีซสถานคือ เมืองบิสห์เค๊ก (Bishkek) เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม เนื่องจากอยู่ติดกับแม่น้ำและภูเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ และยังมีเมืองต่างๆ ทั้งเมืองบาลิคซีที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตก เมืองโท๊คม๊อคที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออก และอีกหลายๆ เมือง แต่ละเมืองเต็มไปด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
แหล่องท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ประเทศคีร์กีซสถานมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งทางธรรมชาติที่งดงาม และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงอารยธรรมเก่าแก่ของเส้นทางสายไหม หรือโบราณสถานที่หลงเหลือจากอาณาจักรในอดีต ที่นี่จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางของทั้งนักเดินทางสายธรรมชาติและสายวัฒนธรรม
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
ทะเลสาบอีสซิค คูล (Issyk-Kul) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนที่สูง โดยมีแม่น้ำกว่า 118 สายไหลลงสู่ทะเลสาบแห่งนี้ แม้จะตั้งอยู่ในเขตภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี แต่น่าแปลกใจที่น้ำในทะเลสาบไม่เคยกลายเป็นน้ำแข็ง จึงได้รับชื่อว่า “อีสซิค คูล” ซึ่งในภาษาคีร์กิซแปลว่า “ทะเลสาบร้อน” (Hot Lake) ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นจุดพักสำคัญนักเดินทางบนเส้นทางสายไหม ปัจจุบันยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ด้วยทัศนียภาพงดงามและบรรยากาศเงียบสงบ
หุบเขาโชน เคมิน (Chon Kemin Valley) เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่งดงามที่สุด แม่น้ำโชน เคมินมีความยาว 116 กิโลเมตร อยู่ในอุทยานเขต Kemin ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2540 พื้นที่ของอุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ 123,564 เฮกตาร์
แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
หอคอยบูราน่า (Burana Tower) ตั้งอยู่ที่เมืองบาลาซากุน บนเส้นทางสายไหมโบราณ หอคอยนี้เป็นสิ่งก่อสร้างเดียวที่หลงเหลือของเมืองโบราณบาลาซากุน ซึ่งชาวคาราคานิดก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษ 9 ความสูงประมาณ 45 เมตร ซึ่งต่อมาในราวศตวรรษที่ 15 ได้เกิดแผ่นดินไหวจึงทําให้ส่วนสูงลดลงมาเหลือเพียงประมาณ 35 เมตร
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมด้วย เช่น หมู่บ้านทัมม์เชย์ (Tamchy Village) และสุเหร่าดันแกน (Dungan Mosque)
6. คีร์กีซสถานกับการเดินทาง
การเดินทางจากไทยไปคีร์กีซสถาน
การเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศคีร์กีซสถานนั้น จะต้องเปลี่ยนเครื่องอย่างน้อย 1 ครั้ง เพราะในปัจจุบันยังไม่มีสายการบินใดที่บินตรงจากประเทศไทยไปถึงประเทศคีร์กีซสถาน และแน่นอนว่าหากไปทางโซนยุโรปจะต้องทำการขอวีซ่า ซึ่งการขอวีซ่าของประเทศคีร์กีซสถานนั้น ทำได้ถึง 2 แบบ อย่างแรกสามารถทำวีซ่าทางออนไลน์ได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ถือว่าสะดวกรวดเร็ว ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือการขอวีซ่าแบบ On Arrival เมื่อเดินทางถึงสนามบินนานาชาติ Manas ในกรุงบิชห์เคก (Bishkek) ประเทศคีร์กีซสถาน ซึ่งราคาวีซ่าจะอยู่ที่ประมาณ 40 ดอลล่าห์ และเรายังสามารถนำสกุลเงินหลัก อย่างสกุลเงินดอลล่าห์หรือยูโร มาแลกสกุลเงินท้องถิ่นประเทศคีร์กีซสถานได้ที่สนามบินอีกด้วยนะ
การเดินทางภายในประเทศคีร์กีซสถาน
การเดินทางภายในประเทศคีร์กีซสถาน มีการคมนาคมที่สะดวกสบาย ทั้งรถไฟ รถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ วิ่งอยู่ทั่วเมือง หากว่าได้เดินทางมาที่ประเทศคีร์กีซสถานแล้ว ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเที่ยวครบจบที่คีร์กีซสถานกันไปเลย
สนใจเลือกเที่ยวประเทศคีร์กีซสถานไปกับ GoTogetherTravel ผู้นำด้านการท่องเที่ยว
Line: @GoTogetherTravel โทร: 02-214-6088 , 081-405-9726