ทัวร์อุซเบกิสถาน 8 วัน 6 คืน 2566

กำหนดวันเดินทาง

ไฮไลท์โปรแกรมทัวร์

ช่องทางติดต่อ

แผนการท่องเที่ยว

ทัวร์อุซเบกิสถาน ทาซเค้นท์ บูคาร่า กิซห์ดูวาน ซามาร์คานด์ ประเทศเอเซียกลาง แหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของโลกมาช้านาน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมยุคแรก ๆ ของโลก

[timeline][timeline_item item_number=”1″ title=”Day 1:กรุงเทพฯ – อัลมาตี-ทาซเค้นท์”] 

  • 07.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว Sเคาน์เตอร์สายการบิน แอร์ แอททาน่า (KC) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัท ฯ คอยให้การต้อนรับ ตรวจเอกสาร และสัมภาระ
  • 10.15 น. เดินทางสู่ เมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน โดยเที่ยวบิน KC 932(รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
  • 16.20 น. แวะพักเครื่องที่ สนามบินอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน
  • 22.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองทาซเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน โดยเที่ยวบิน KC 129
  • 23.10 น. เดินทางมาถึง สนามบินเมืองทาซเค้นท์ ผ่านพิธีตรวจเอกสารคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
  • นำท่านเข้าพักที่โรงแรม City Palace หรือเทียบเท่า
[/timeline_item] [timeline_item item_number=”2″ title=”Day 2 : ทาซเค้นท์]
  • รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • เมืองทาซเค้นท์ (Tashkent) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ทางทิศ ตะวันออกของประเทศ มีความหมายว่า เมืองแห่งศิลา (The City of Stone) เป็นเมืองที่ใหญ่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมในเอเชียกลาง มีประชากรประมาณ 2 ล้านคนเป็นเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล
  • ชม จัตุรัสอิสรภาพ (Independence Square) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองของทาซเค้นท์ เริ่มมีการขึ้นในปี ค.ศ.1991 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมาของอุซเบกิสถาน มีพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินทองอันกว้างใหญ่มีคุณค่าในการเพาะปลูก ถึงแม้ว่าจะมีภูมิประเทศที่ไม่เหมือนที่ใดในโลกนี้ และยังเป็นสัญลักษณ์ของดินแดนแห่งใหม่ที่เป็นส่วนร่วมของชุมชนบนโลกใบนี้
  • นำท่านชม อนุสาวรีย์และจัตุรัสอาเมียร์ ตีมูร์ (Amir Timur  Monument and Square) เป็นบริเวณที่สวยงามเต็มไปด้วยร่มเงาของต้นไม้และล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ที่มีสีสันสุดที่จะบรรยาย สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นอนุสาวรีย์ของรัฐบุรุษของชาติที่เป็นผู้ก่อสร้างอาณาจักรแห่งนี้ขึ้นมา ในสมัยของจักรวรรดิตีมูริด นอกจากนั้น บริเวณนี้ยังถูกล้อมรอบไปด้วยตึกต่างๆ ซึ่งถูกสร้างสมัยต่างๆในระยะเวลา 300 ปี
  • ชม อนุสาวรีย์ของแม่ที่มีความสุข (Happy Mother) ที่เป็นรูปปั้นแกะสลักที่มีความสูง 6 เมตร และตัวเด็กมีความยาว 3.5 เมตร ที่ได้แสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของแม่ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนได้กอดลูกที่จะเป็นอนาคตของชาติต่อไป ใบหน้าของแม่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความกรุณา
  • นอกจากนั้น บริเวณรอบๆยังมีสถานที่ราชการทีสำคัญและที่ทำงานของประธานาธิบดีและรัฐมนตรีต่างๆหลายกระทรวง (สถานที่สำคัญแห่งนี้ไม่สามารถถ่ายรูปได้) นำท่านเดินชมส่วนต่างๆ ของบริเวณนี้และต่อไปยังอีกส่วนหนึ่งที่จะต้องผ่านชม คือ วังที่พักของเจ้าชายแห่งโรมานอฟ (Prince Romanov Residence) คือ นิโคไล คอนสแตนติโนวิช ซึ่งเป็นหลานชายของจักรพรรดิแห่งนิโคไล ที่ 1 ที่ได้เสด็จหนี ออกมาอยู่ที่เมืองทาซเค้นท์ในปี ค.ศ.1877 เป็นวังที่ถูกสร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1891 และอยู่ในวังแห่งนี้จนเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1918 ซึ่งเป็นที่พักชั้นเดียวแต่ถูกสร้างขึ้น อย่างมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมในการออกแบบของ เบน๊อตและเกย์ท เซลแมน ที่ได้ออกแบบสร้างด้วยศิลปะอันทันสมัยที่ล้ำยุคแห่งกาลเวลา และภายในยังเต็มไปด้วยการตกแต่งด้วยภาพแกะสลักภาพที่มีความสวยงาม
  • ชมภายนอก โรงละครอลิสเชอร์ นาวอย (Alisher Navoi Opera and Ballet Theatre )
  • รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
  • ชม สุเหร่าจูมา (Juma Mosque) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า สุเหร่าของซาร์ (Tsar’s Mosque) สุเหร่าแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1451 โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเชคห์ อูเบย์ดุลลา โคจา อาคห์เรอร์ (Sheikh Ubaydulla Khoja Akhror) ผู้เป็นมหาบุรุษแห่งลัทธิซูฟี ที่สืบสกุลมาจากผู้เผยแพร่ศาสนามุคฮามัด ต่อมาในศตวรรษที่ 19 ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงและได้ทำลายสิ่งก่อสร้างเสียหายไปมากมาย แต่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยคำสั่งของจักรพรรดิของรัสเซีย อะเล็กซานเดอร์ที่ 3 ผู้ที่ได้แบ่งเงินจากคลังสมบัติของพระองค์เอง นำมาเป็นค่าก่อสร้างให้มีรูปลักษณ์สุเหร่าที่เป็นแบบดั้งเดิมทุกอย่าง จนกระทั่งในเวลานั้นสุเหร่านี้ได้ถูกเรียกว่า สุเหร่าของซาร์ แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1997 ก็ได้พังลงมาอีก และก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ให้เป็นสุเหร่าอันดับที่สามของประเทศฯ รองมาจากบีบีคานุมที่ซามาร์คาน และหอคาลยานที่บูคาร่า
  • ชม โรงเรียนสอนศาสนาคูเคลดาสห์ (Kukeldash Madrassah) เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคของศตวรรษที่ 16 โดยข้าหลวงคูเคลดาสห์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจและยังเป็นพี่น้องร่วมแม่นมกับบารัค ข่าน ผู้ปกครองแห่งเมืองทาซเค้นท์
  • รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  • พักที่ CITY PALACE  4* หรือเทียบเท่า
[/timeline_item] [timeline_item item_number=”3″ title=”Day 3 :ทาซเค้นท์-บูคาร่า”]
  • 07.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินทาซเค้นท์ เพื่อเดินทางไปยัง เมืองบูคาร่า (Bukhara) โดยสารการบิน HY 023
  • 08.40 น. เดินทางมาถึง เมืองบูคาร่า ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
  • รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • นำท่านเที่ยวชม เมืองบูคาร่า (Bukhara)  ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ  เมืองบูคาร่า เป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดบูคาร่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ในอดีตเป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขา สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาในฤดูใบไม้ผลิ  และยังเป็นเมืองที่กำเนิดงานเขียนของผู้ที่นับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ เป็นที่อยู่ของบุคคลสำคัญ มีสุเหร่า อนุสาวรีย์ อนุสรณ์สถาน โรงเรียนสอนศาสนา ฯ และยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองในเทพนิยาย และที่สำคัญเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าขายที่มีชื่อว่า เส้นทางสายไหม และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1993
  • ชม โบโล เค้าซ คอมเพล็ก (Bolo Khauz Complex) เป็นอาคารสุเหร่าในสมัยกลาง ถูกสร้างขึ้นไปปี ค.ศ.1712-1713 รูปแบบในการก่อสร้างประกอบไปด้วยเสาไม้ที่มีความสูงมาก อาคารด้านหน้ามีเสาไม้ประดับมากกว่า 20 ต้นรองรับดาดฟ้าหลังคา ต่อมาในปี ค.ศ.1917 ก็ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสุเหร่าอย่างเป็นทางการมาจนถึงปัจจุบันนี้
  • ชม ป้อมดิอาร์ค (The Ark Fortress) ซึ่งเป็นป้อมเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 5 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเมื่อขึ้นไปด้านบนของป้อมจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน และกล่าวกันว่าครั้งหนึ่งในอดีต มีผู้อาศัยอยู่ในป้อมแห่งนี้ถึง 3,000 คน  ตัวป้อมสามารถใช้เป็นเกาะกำบังสำหรับป้องกันศัตรูที่จะเข้ามารุกราน ป้อมแห่งนี้มีเนื้อทีกว้างใหญ่ประมาณ 25 ไร่ มีกำแพงล้อมรอบมีความยาวประมาณ 800 เมตร ส่วนของกำแพงมีความสูงถึง 16-20 เมตร
  • ชมที่ ฝังพระศพของอีสมาอิล ซามานิดส์ (Ismail Samanids Mausoleum)ชม ไลอับบี เฮ้าซ์ (Lyab i Hauz) เป็นสถานที่สำหรับสอนศาสนาที่ตั้งอยู่บริเวณริมสระน้ำที่ให้ความร่มรื่นกับผู้ที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1620 และบริเวณมุมรอบๆ สระจะมีต้นมัลเบอร์รี่ (ต้นหม่อน) ที่ได้ปลูกเอาไว้หลายร้อยปี
  • รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
  • นำท่านเลือกซื้อสินค้าที่โดมอันยิ่งใหญ่ ณ ทากิ (Taqi  Trading Domes) มีอยู่ 3 ส่วน คือ ทากิ ซาร์การอน(Taqi  Zargaron) ซึ่งเป็นโดมที่พวกอินเดียทำการค้าขายและแลกเงินตรา ทากิ ซาร์ราฟอน (Taqi Sarrafon)  เป็นโดมที่ค้าขายเกี่ยวกับสิ่งมีค่า อัญมณีต่างๆ  และ ทากิ เทลปัก ฟูรูโช่น (Taqi Telpak Furushon) เป็นโดมที่ค้าขายของที่เป็นสินค้า สำหรับทั่วๆไป รวมทั้งของที่ระลึก เช่น ชาหอม หมวกขนแกะ พรม ผ้าที่เย็บด้วยมือ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
  • รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตคาร พร้อมชมการแสดงพื้นเมือง**
  • เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Malika Bukhara 4*  หรือเทียบเท่า
[/timeline_item] [timeline_item item_number=”4″ title=”Day 4 : บูคาร่า-ซามาร์คานต์”]
  • รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • เดินทางไป เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 140 กม. ระหว่างทางให้ท่านได้ชม คาราวานซารายราบาติ มาลิค (Rabati Malik Caravanserai) ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่พักแรมของกองคาราวานบนเส้นทางสายไหม ตามคำสั่งของคาราคานิด ชามส์ อัล มัค นาสร์ บุตรชายของทัมกาชข่าน อิบรากิม ผู้ที่ปกครองในดินแดนซามาร์คานด์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1068-1088 เป็นโบราณสถานที่มีค่าที่สุดทางด้านประวัติศาสตร์ในดินแดนแห่งตะวันออกกลาง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 2008 เป็นสถานที่ที่มีความพิเศษในด้านประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมของเปอร์เซียโบราณมีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 8,277 ตร.เมตร โดยเฉพาะประตูทางเข้าด้านหน้าได้ถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรและมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลายของส่วนโค้งที่ถูกก่อขึ้นด้วยก้อนอิฐที่มีขนาดใหญ่ แต่ละก้อนที่วัดได้ คือ ขนาด 25x25x4 ซม. และขอบประตูยังถูกตกแต่งด้วยรูปดาวแปดเหลี่ยมที่ต่อกันอย่างสวยงามไปยังส่วนด้านบนของประตู และต่อลงมาทางด้านล่างของอีกด้านหนึ่ง
  • รับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคาร
  • ชม เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand)  เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมือง  หนึ่งในเอเชียกลาง ตั้งอยู่ในโอเอซิส ซึ่งได้รับน้ำมาจากคลองที่ขุดมาจากแม่น้ำซารัฟชาน อเล็กซานเดอร์ มหาราชได้ผ่านมาเมืองนี้ เพื่อที่จะเดินทางไปยังอินเดีย จึงได้ยึดครองเอาไว้  ต่อจากนั้น ก็เป็นพวกเติร์ก พวกอาหรับและพวกเปอร์เซียก็ได้เข้ามาปกครองต่อๆกันมา เมืองนี้ได้มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในยุคกลาง และในปี ค.ศ.1215 เจงกิสข่านได้แผ่อาณาจักรเข้ามาควบคุมเส้นทางสายไหม และเข้ายึดเมืองนี้ในปี ค.ศ. 1221 และอีกประมาณร้อยปีต่อมา เมืองนี้ก็เหลือแต่ซากปรักหักพัง และจากนั้นตีมูร์ ข่านก็ได้สร้างอาณาจักรแห่งนี้ให้มีความเจริญขึ้นมา ซึ่งเมืองนี้ได้รับสมญานามว่า เมืองแห่งโดมสีฟ้า (The City of Blue Domes) ในประวัติศาสตร์ ถ้านับย้อนหลังไปหลายร้อยปี และยังได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งนิยาย 1001 อาหรับราตรี (1001 Arabian Nights) และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกใน ปีค.ศ. 2001
  • ชม จตุรัสเรจีสถาน( Registan Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่งดงามไปด้วยศิลปะอิสลาม ซึ่งถูกกล่าวขานว่ามีความงดงามที่สุดในเอเชียกลาง ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าตัดขอบด้วยสีเหลือง รายล้อมไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา (Madrasah) ถึง 3 แห่ง คือ อูลุค เบก (Ulug Beg) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1417-1420 และ เชียร์ ดอร์ (Shir Dor) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1619-1636 โดยเลียนแบบมาจากอูลุค เบค ผนังกำแพงมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิต และซุ้มประตูมีรูปเสือลายพาดกลอน ที่แตกต่างไปจากสถาปัตยกรรมทั่วๆไปของศาสนาอิสลาม ส่วน ทิลยา คารี (Tilya Kari) ถูกสร้างขึ้นอยู่ทางด้านเหนือ ในศตวรรษที่ 17 และใช้เวลาสร้างประมาณ 20 ปี ซึ่งผนังและซุ้มในกำแพงมีการปิดทองมากกว่าที่อื่นใด
  • รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  • นำท่านเข้าพัก Diyora  3*  หรือเทียบเท่า 
[/timeline_item] [timeline_item item_number=”5″ title=”Day 5 : ซามาร์คานด์]
  • รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • ชม  สุเหร่าบิบิ คะนุม (Bibi Khanum Mosque) เป็นสุเหร่าที่ถูกสร้างขึ้นมาและใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่สามารถปกครองดินแดนได้มากกว่าใครในประวัติศาสตร์ ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1399 ใช้เวลาก่อสร้างนาน 5 ปี ใช้ช่างฝีมือ 200 คน แรงงาน 500 คน  ช้างอีก 95 เชือก ด้านประตูทางเข้าสร้างเป็นอาคารสูงประมาณ 35 เมตร ทางเข้าสร้างเป็นรูปวงรี สูง 18 เมตร ตัวหอบังสูงประมาณ 50 เมตร ตรงทางเข้าสู่จัตุรัสมัสยิดมีขนาดพื้นที่ยาวประมาณ 167 เมตร และกว้าง 109 เมตร และสองข้างยังมีมัสยิด ขนาดเล็ก โดยเฉพาะตัวโดมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้  ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนแกะสลักโมเสครูปร่างต่างๆ เคลือบด้วยสีฟ้างดงาม เขียนภาพและอักษรด้วยน้ำเงินและทอง และที่หน้าสุเหร่ายังมีแท่นซึ่งเดิมวางคัมภีร์อัลกุรอ่านที่ใหญ่ถึง 2 เมตร
  • ชม ชาห์ อิ ซินดา (Shah i Zinda Complex) ซึ่งมีความหมายว่า เป็นที่อยู่ของกษัตริย์ (The Living King /Necropolis) เป็นสถานที่รวมสุสานขนาดใหญ่ อาคารที่ถูกปิดด้วยกระเบื้องสีฟ้าขาว
  • รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
  • ชม หอดูดาวอูลุก เบค (Ulug Beg Observatory) เป็นสถานที่เก็บอุปกรณ์ที่ใช้ดูดาว สร้างโดย ข่านอูลุข เบค ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะทางดาราศาสตร์ของท่าน ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1428-1429 เป็นอาคาร 3 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร มีด้านบนยอดคล้ายกับโดม สถานที่แห่งนี้แสดงถึงเรื่องราวทางดาราศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์  เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ดูดาวของท่านข่าน
  • ชม ตลาดกลาง (Central Market/Siyab Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียง มีความประหลาดที่น่าทึ่ง และเป็นหนึ่งเดียวของซามาร์คาน ที่ผู้คนยังคงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เป็นวัฒนธรรมของชาวอุซเบก และสวมหมวกที่สวยงาม  อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่บาซาร์ ซึ่งมีสินค้าต่างๆมากมายที่ราคาถูก และสวยงามเช่น ผลไม้สด พืชผักต่างๆ ขนมหวาน องุ่นแห้งที่มีทั้งสีเหลืองและดำ
  • เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Diyora  3* หรือเทียบเท่า
[/timeline_item] [timeline_item item_number=”6″ title=”Day 6 : ซามาร์คานด์-ทาซเค้นท์”]
  • รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • ชม สถานที่ฝังศพกูริ อาเมียร์ (Gure Amir Mausoleum) ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่ฝังศพของสุลต่าน มูฮัมหมัด (Sultan Muhammad) ซึ่งเป็นหลานรักที่เสียชีวิตในเปอร์เซีย สร้างขึ้นโดย ข่าน ตีมูร์ในปี ค.ศ. 1403 มีประตูทางเข้าก่ออิฐถือปูนตั้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าซุ้มโค้ง มีโดมสีฟ้าผิวลอนกระดูกงู สูงประมาณ 36 เมตร ผนังห้องและเพดานโค้ง
  • จากนั้นนำท่านชม Toursit complex The silk Road Samarkand สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีความทันสมัย ตื่นตา ตื่นใจ
  • รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
  • เดินทางไปยัง เมืองทาซเค้นท์ ที่อยู่ทางด้านเหนือห่างประมาณ 340 กม.
  • รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  • เข้าที่พัก โรงแรม City Palace  4* หรือเทียบเท่า
[/timeline_item] [timeline_item item_number=”7″ title=”Day 7 : ทาซเค้นท์-อัลมาลี-กรุงเทพฯ”]
  • รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • สถานีรถไฟใต้ดิน (The Tashkent Metro) เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยตามรูปแบบที่สมบูรณ์
  • ชม ตลาดคอร์ซู (Chorsu Bazaar) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดที่ยิ่งใหญ่ในเอเชียกลางและบนเส้นทางสายไหม ที่อยู่ภายใต้โดม 7 โดม ซึ่งได้ถูกแบ่งเป็นแหล่งสินค้าต่างๆจากพ่อค้า เกษตรกรที่ขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ สัมผัสกับบรรยากาศแบบย้อนยุคอย่างที่เป็นในสมัยโบราณ แต่ได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่    ให้ท่านได้พักผ่อน และสนุกกับการซื้อสินค้าในตลาดบาซาร์ที่มีผ้าแพรพรรณ พรม เครื่องทองเหลือง ผ้าขนสัตว์ เครื่องหนัง และสินค้าพื้นเมืองมากมาย
  • 11.00 น. นำท่านเดินทางไปยังสนามบิน เพื่อตรวจเอกสารการเดินทาง
  • 14.20 น. ออกเดินทางจากทาซเค้นท์ สู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ KC 128 (รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
  • 16.50 น. แวะพักเครื่องที่ สนามบินอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน นำท่านเดินทางไปรับประทานอาหารค่ำ ณ เมือง อัลมาตี (อาหารพื้นเมือง)
[/timeline_item] [timeline_item item_number=”8″ title=”Day 8 : กรุงเทพฯ”]
  • 01.10 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ/กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน KC 931
  • 08.55 น. เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ/กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
[/timeline_item]

เราชำนาญด้านการจัดทำทัวร์มากกว่า 17 ปี รับจัดกรุ้ปส่วนตัวทุกประเทศตามในแบบที่คุณต้องการ ตามเส้นทางทั่วโลก

Go Together Travel

โทร 02-2146088 ทุกวัน จันทร์ -ศุกร์ 09.00 -18.00 น.

Reviews

There are no reviews yet.

Be the first to review “ทัวร์อุซเบกิสถาน 8 วัน 6 คืน 2566”